เรื่องเล่าของนิสิตเก่า รุ่น 37

จาก Entrance สู่ Exit : เมื่อข้าพเจ้ามองย้อนกลับไป

จาก Entrance สู่ Exit : เมื่อข้าพเจ้ามองย้อนกลับไป

 เล่าโดย   อรรัตน์ คุณาวงษ์กฤต  อ.บ. 37

คุณคิดว่า การสอบเข้าเรียนเป็นนิสิตคณะอักษรศาสาตร์ ไม่ว่าจะเป็นภาคกลางวัน หรือภาคสมทบ มีความสำคัญมากน้อยเพียงใด? สำหรับข้าพเจ้า การได้เรียน จบการศึกษา และ มีหน้าที่การงาน ที่สามารถเป็นกำลังของชาติได้นั้นต่างหาก จึงได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อย่างเต็มภาคภูมิต่างหาก ที่สำคัญอย่างที่สุด

สำหรับตัวข้าพเจ้านั้น ความภูมิใจเล็กๆที่เริ่มมาจากในปี พศ. 2512 จากการได้เข้ามา เป็นนิสิตน้องใหม่ของคณะอักษรศาสตร์นั้น มันมากมายเหลือล้น จากวันนั้น ล่วงเลยมาถึงวันนี้ ผ่านร้อน ผ่านหนาวมา 48 ปีแล้ว ในวันนั้นที่ข้าพเจ้ายังเด็กนัก ในวันที่ข้าพเจ้ายังสงสัยถึง ความสามารถตัวเองว่า เรามีความสามารถไม่เทียบเท่ากับผู้อื่น หรือเราทำข้อสอบ Entrance ผิดพลาดไป จึงต้องมาเรียนในภาคสมทบ มาถึงวันนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย กลับคิดว่า พวกเรานั้นก็เรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ดีพอที่จะ Entrance ติด ที่ยิ่งกว่านั้นคือ ดีพอที่จะจบการศึกษา จากหลักสูตร และการเรียนการสอนที่เหมือนๆกัน แม้ว่า เวลาเรียนนั้นจะแตกต่างกัน พวกเราภาคสมทบนั้น ต้องเรียนในช่วงเวลาเย็น ถึงมืดค่ำ (16.00 – 20.00 น.) ทุกวัน และวันเสาร์และอาทิตย์  การเดินทางไป และกลับมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาที่เพื่อนๆในคณะภาคกลางวันนั้น ได้กลับบ้านพักผ่อนแล้ว พวกเราต้องดูแลตัวเองให้เดินทางในยามค่ำคืนให้ปลอดภัยทุกวันตลอดระยะเวลา 2 ปี โดยใน 2 ปีหลัง ข้าพเจ้าและเพื่อนๆได้ไปเรียนในภาคปกติจนจบการศึกษา

     

เมื่อกาลเวลาผ่านไป ข้าพเจ้าได้มาพิจารณาแล้วว่า มันไม่ได้สำคัญอะไรเลยที่เราจะเรียน ภาคไหน เวลาใด ด้วยเหตุว่า พวกเรานั้นได้ฟันฝ่าชีวิตการเรียนในช่วงนั้น ทั้งปรับตัว ปรับใจ ขยัน อดทน เรียนรู้ และการเข้ากิจกรรมต่างๆของทางมหาวิทยาลัยอย่างสนุกสนาน เรามีเวลาที่จะ ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ เดินสำรวจไปตามสถานที่ และคณะต่างๆในจุฬาฯ ซึ่งพวกเรามีเวลาช่วงกลางวัน ก่อนเรียนในช่วงเย็น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนในภาคกลางวัน คงจะไม่สามารถทำได้แบบพวกเรา และสิ่งที่ สำคัญที่สุดคือ พวกเราจบการศึกษาเป็น “อักษรศาสตรบัณฑิต” ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างเต็มภาคภูมิ อีกทั้ง เราชาวอักษรศาสตร์นั้น  เป็นผู้มี ความสามารถ ทำงานรับใช้สังคม ประเทศชาติ ได้อย่างดีเยี่ยม มีความเจริญก้าวหน้า ทั้งทาง ชีวิตส่วนตัว และหน้าที่การงาน เพื่อนๆของเรานั้น มีทั้ง ด็อกเตอร์ อาจารย์ นักบริหาร นักธุรกิจ ฯลฯ เฉกเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การรับนิสิตภาคสมทบของคณะอักษรศาสตร์และของมหาวิทยาลัยมีมานานแล้ว  ก็คงเป็นด้วยเหตุผลว่า ในอดีตที่การเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นระบบการระบุคณะที่ประสงค์เรียนโดยตรง ทางคณะอักษรศาสตร์เปิดโอกาสให้ผู้จบสาขาวิชาครูและเป็นผู้มีงานประจำทำได้มีโอกาสเรียนวิชาอักษรศาสตร์  แต่ในเวลาต่อมาระบบการสอบคัดเลือกเป็นแบบจัดอันดับคะแนนก็ยังคงให้มีทั้งภาคปกติและภาคสมทบเพื่อรับนิสิตได้จำนวนมากขึ้นตามนโยบายที่ทางมหาวิทยาลัย ต้องการผลิตบัณฑิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับประเทศชาติ ที่กำลังพัฒนาในเวลานั้น

สิ่งที่สำคัญมากๆอีกประการหนึ่งในการเรียนภาคสมทบหรือภาคค่ำ  ก็คือ คณาจารย์ที่จะต้องทำงานหนักขึ้น ต้องกลับค่ำมืด เหมือนนิสิต แต่ท่านก็เสียสละ อุทิศตน มุ่งมั่นสอนนิสิตทุกคนให้มีคุณภาพ มีความรู้ ความสามารถ ทัดเทียมกันไม่ว่าจะเป็นนิสิตภาคกลางวัน หรือภาคสมทบ

เมื่อมองให้ดี การเปิดการเรียนการสอนภาคสมทบ ของคณะอักษรศาสตร์ในช่วงเวลานั้น อาจมองได้ว่าเป็นจุดหนึ่งที่สำคัญของคณะฯ ที่พูดได้ว่า สมควรที่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสาตร์ หน้าหนึ่ง ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ซึ่งในปัจจุบันไม่มีการเรียนหลักสูตรนี้แล้ว

 

 

 

กลับขึ้นด้านบน

คิดถึงภาคสมทบ วัฒนา เหล่าเศรษฐกุล อ.บ. 37

คิดถึงภาคสมทบ

โดย วัฒนา  เหล่าเศรษฐกุล  อ.บ. ๓๗

 

คิดถึงภาคสมทบมีครบเครื่อง             เรามีเรื่องสนุกสนานมาขานไข

เรียนตอนเย็นสองปีไม่เหมือนใคร       เสาร์อาทิตย์เทวาลัยไม่เหงาเลย

เรื่องโหดโหดเรื่องเรียนเพียรปกติ       พวกเราริติวกันพลันเฉลย

อยู่สระน้ำหน้าจุฬาฯมาอย่างเคย        ไม่ละเลยช่วยกันขยันมา

แต่กลางวันช้อปปิ้งยิ่งสนุก               ไม่เคยทุกข์ชีวิตมันก็หรรษา

ดูอาทิตย์ตกน้ำหน้าสระจุฬาฯ            และดวงจันทร์ลอยฟ้าพาเบิกบาน

จะมีใครได้อย่างพวกเราบ้าง             มาครึ่งทางสมทบพบประสาน

อีกครึ่งทางมารวมร่วมพบพาน          หลายคนงานก้าวหน้าร่าเริงใจ

ภาพจุฬาฯเทวาลัยอยู่ใกล้นัก           ได้รู้จักสีเทาเราสดใส

จามจุรีสีชมพูอยู่คู่ใจ                      ไม่ยอมไปไหนห่างจืดจางเลย

เราต่างมีศักดิ์ศรีที่ดีเด่น                  อยู่ที่ไหนใครเห็นเป็นเฉลย

เราร่วมกันสรรสร้างเหมือนอย่างเคย   ไม่ละเลยรักกันนิรันดร

 ( 7 ต.ค.59 )

กลับขึ้นด้านบน

อักษรศาสตร์จุฬารุ่น37รำลึก

     

    

อักษรศาสตร์จุฬารุ่น37รำลึก

    

คิดถึงเพื่อนตั้งใจจะไปหา                          อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรที่ไหนบ้าง

กรรณิกา กัญจน์วิภา สวยสอางค์              อยู่เคียงข้างกุมารี กุลนภา

กุสุมาลย์ ขจิตรา ขนิษฐรัชฏ์                  ดูชัดชัดยิ้มสวยขนิษฐา

อีกจรรยา จรีพร จันทิรา                         เพื่อนบอกว่าน่ารักมาทักทาย

จารุวรรณ จินตนา จิราภรณ์                   คิดถึงตอนปีหนึ่งซาบซึ้งหลาย

จิราภรณ์ จิรพรรณ มั่นใจกาย                  ดูผ่อนคลายเจิดจันทร์สัมพันธ์ดี

เฉลิมศรี ชาญชัยและชื่นสุข                   แสนสนุกโชติกาก็มานี่

มาร่วมกันสร้างสรรค์กับชวลี                     ดวงจันทร์มีดวงทิพย์และดวงพร

ดวงรัตน์ก่อนดวงฤดีและตรีศิลป์             ดารณีเคยชินถิ่นอักษร

ถนอมจิต ทัศนีย์บูล หนุนในกลอน            เลยยอกย้อนกลับมาเทวาลัย

ทิพยรัตน์ ทิพาพร ทิพย์วัน                      ก็เพื่อนกันสรรสร้างอยู่ทางไหน

ธันยพร ธีรา นึกว่าใคร                           มาใกล้ใกล้ นรินทร์ นฤดี

นฤมล นวลอนงค์ คงมีสุข                      ดูสนุกนารีมีแสงสี

นวลอนงค์ นิจพร ก่อนยินดี                   โอกาสที่เทวาลัยได้ชื่นชม

อีกน้ำทิพย์ นิตยา และบุญคุ้ม                     คนอยากรุมสอบถามนามปฐม

บุหงาตอบสุจิตรามาชมรม                       กับชื่นชมจามจุรีดีใจกัน

โอ้ประคอง ประไพพรรณกับปราณี          ดูให้ดีสมสง่าพาเพื่อนฝัน

ปาริชาติปรารถนาดีมีให้กัน                      ปิยะนาถเพื่อนฉันนั่นปิยะวดี

ปิยาภรณ์ เปรมวัลย์มากันอีก                  ไม่เคยหลีกลี้ไปที่ไหนนี่

ผกาพันธ์ ผกายมาศร่วมยินดี                 พงษานี้เพื่อนชายหมายพบเจอ

พนิดา พรณีกับพรทิพย์                         ไม่ไกลลิบเพื่อนใจใสเสมอ

พรปรียา พรรณงาม นามนี้เธอ               ขอเพื่อนเจอแต่สุขทุกข์ไม่มี

เห็นพรรณทิพย์ พรวิภา พรศิริ               จึงอยากริร่วมกันฝันถึงสี

ชมพูเด่นเป็นสง่ามาหลายปี                     คิดถึงที่เรียนเล่นเช่นพบพาน

พรสวรรค์กับพรสรรค์นั้นเคยชิด             มองพิศพิศพวงไข่มุกข์สนุกสนาน

พัชนีดีใจได้สำราญ                              อย่ามองผ่านพัฒนาและพิมพรรณ

พัชรประภาแสนสวยรวยคนรัก                เพื่อนประจักษ์พัชรินทร์อินทร์เสกสรร

กับพิมพา ภาคินีมาด้วยกัน                    เพื่อนของฉันภราไดยใจชื่นชม

มณีรัตน์กับมนัสจัดเป็นเพื่อน                 ไม่ลืมเลือนมยุรภรณ์จรสุขสม

มยุรี มัลลิกา พาอารมณ์                       ยังชื่นชมมานะศรียินดีจริง

กับมิ่งมิตร มิ่งสรรพ์เมื่อวันก่อน              อยากเว้าวอนยุพินยินดียิ่ง

รัชนี รัศมี ที่รักจริง                              เราไม่ทิ้งลดาวัลย์ ลลิดา

ลักขณาวดีดีใจมาใกล้เพื่อน                 ไม่ลืมเลือนวนิกุลจุนเจือหา

กับเพื่อนอีกสองคนวนิดา                       ชวนกันมาวรนาถองอาจใจ

อีก วรรณา วรรณี วรลักษณ์                 ได้ทายทักวรศิริมติใหม่

ยังเริงร่าวันนี้จะมีใคร                            วราภรณ์นั้นไซร้มาใกล้กัน

วรางรัตน์ วริยา ก็มานี่                         เพื่อนยินดี ดีใจได้อย่างฝัน

เอ่ยทายทักวลัยภรณ์ วิลาวัณย์              กับตัวฉันวัฒนามาร้อยเรียง

อ้อวัลลีย์ วาสนา ก็มาด้วย                    คงจะช่วยหาวินัยได้ยินเสียง

แด่วิภา เพื่อนรักจักจำเรียง                     สองวิมลคนเคียงวิภาดา

วิมลรัตน์สองคนพลพรรค                      ก็น่ารักวิลัยสุขใจหา

วิลาวัณย์เพื่อนฉันนั้นงามตา                   วิวัณณา วิศิษฏ์ศักดิ์มาทักทาย

วิสสุดาสองคนเพื่อนบ่นถึง                      พวกเราจึงตามหาแววตาฉาย

ศรีชาดา ศรีภูมิมาใกล้กาย                    ศิริกุล สมหมาย ศุลีพร

ศิริลักษณ์ สดศรี มีดีอยู่                        พวกเรารู้สมชายยังคล้ายก่อน

สนธิวรรณตามมาแล้วว่าวอน                  สมบูรณ์จรคงจะมาอารมณ์ดี

ฝ่ายสมศีลศีลธรรมประจำจิต                  ราชบัณฑิตกิจกรรมนำศักดิ์ศรี

อักษรศาสตร์เพื่อนเราเฝ้ายินดี                   สีเทานี้เด่นสง่ามาช้านาน

กับสร้อยทอง สลวยพรรณยังฝันถึง          คนแอบซึ้งพึงใจให้สื่อสาส์น

สินสุดา สิริวรรณก็ได้การ                        อยากพบพานสิรีกับสุประภา

สุเกสินี สุชาดา โสภานัก                        สุดาพร รู้จักสุนิสา

สุจินต์นี้สุนีย์ก็รีบมา                                แล้วบอกว่าสุพจน์ปรากฎกาย

สุพัชรี สุภาพก็ทราบแล้ว                        สุมณฑาเพื่อนแก้วแนวสหาย

สุมาลีมีสองคล้องใจกาย                         สุมิตราใจหมายได้ดังปอง

สุรศักดิ์ สุริยา ก็มาด้วย                         สุวัธนาเข้าช่วยต้อนรับของ

สุวิมลมีสามตามใจปอง                           เสาวณิตแซ่ซ้องกับเสาวนีย์

นั่นโสภา ไสลทิพย์ ช่วยหยิบแหวน           เรามีแผนชวนอนงค์ กับอรศรี

อนุสรณ์ อภิญญา อภิรดี                         อมตา อรสิญจน์นี้ที่อวยพร

อัจฉราพรรณนั้นรักกับโยคะ                    เคยพบปะเขียนไว้ในอักษร

ทั้งหนังสือสืบสานงานละคร                      พิธีกรเป็นหนึ่งน่าทึ่งจริง

อังคณิต อัชลียา ก็มาด้วย                       แต่งตัวสวยอัญชลีศรียอดหญิง

ทั้งสองสาวคราวนี้ดีใจจริง                         ที่ไม่ทิ้งเพื่อนเก่าเราเข้าใจ

อารยา อลิสา อารีรัตน์                            ที่เด่นชัดอำพลศิลป์คุ้นชินไหม

อุไรวรรณ อุษา อาภาใจ                         เอมอรใกล้อุษณีษ์ดีใจเอย

ยังมีอีกเพื่อนฉันนั้นสองร้อย                       ดวงใจน้อยเก็บไว้ได้เฉลย

วิมลา ศิริพร มาอย่างเคย                         อย่าละเลยจำนรรค์ขยันจริง

ชลทิชา ดาราวรรณ และชุมศรี                 ดูดีดีเพื่อนฉันสร้างสรรค์ยิ่ง

ปรารมภ์รัตน์ วรรณดีที่รักจริง                  อยากจะวิ่งไปหาพาเคลียคลอ

อรรัตน์ เอื้อมพรก่อนอยู่นี่                        คงยินดีกลับมาหาเพื่อนหนอ

หวังประสบพบเห็นเช่นเคยรอ                      กับหยอกล้อแสนสุขสนุกใจ

อักษรศาสตร์ สามเจ็ด เขียนเสร็จแล้ว              เสียงเจื้อยแจ้วตามไปที่ไกลใกล้

สีชมพูคู่จุฬาฯ ตรึงตราใจ                              จามจุรี เทวาลัย สุขใจเอย

ด้วยอาลัยใจคิดถึงมิตรรัก                              ได้ประจักษ์ความโศกวิโยคเอ๋ย

จรุงเพื่อนเหมือนใจจะขาดเลย                       ณรงค์เคยใกล้ชิดสนิทกัน

อีกธีระ นิรมล ประไพพิศ                            ล้วนสนิทจากไปใจโศกศัลย์

ปิยเทพ พิณวิภา และพิมพ์พันธ์                   จากไกลกันไปลับไม่กลับมา

รัศมี(ศิริไพบูลย์สินธ์) วีรชัย และสมวิทย์         เคยใกล้ชิดวันก่อนตอนศึกษา

แต่วันนี้ไม่มีแล้วเพื่อนแก้วลา                          สู่ฟากฟ้าสุราลัยใจระทม

อีกสมัย สุวิมล(ชาญมานนท์) คนลาจาก           คิดถึงมากอิราวดีที่งามสม

สง่านักอมราลักษณ์มลายลม                        ให้เพื่อนสมไปที่ชอบขอปลอบใจ

      ส่งเพื่อนรักไปสู่สุคติ                                เราดำริทำบุญเกื้อหนุนให้

หก พ.ย.ห้าเก้าเราพร้อมใจ                             ส่งเพื่อนไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าเอย

 

 ประพันธ์  โดย  น้อย วัฒนา

4 ต.ค.59

                                             

กลับขึ้นด้านบน

ขอเพื่อนรักไปสู่สุคติ

ขอเพื่อนรักไปสู่สุคติ

     เพื่อนเพื่อนมารวมกันในวันนี้                                 มารวมที่แสนสงบที่ภพไหน

บางคนมาทั้งที่แสนอยู่ไกล                                          แต่มีใครช่วยทำล้ำเลิศดี

     มีจำนรรค์เพื่อนฉันนั้นมาก่อน                              กับวิมลา ศิริพรอักษรศรี

ชลทิชา ดาราวรรณ และวรรณดี                ชุมศรีนี้เพื่อนรักรู้จักกัน

     ปรารมภ์รัตน์ อรรัตน์จัดมาแล้ว                        คือเพื่อนแก้วชวลีที่ขยัน

อลิสาอีกคนมาช่วยกัน                                                แล้วแบ่งปันความสุขไปทุกคน

     ขอนิมนต์ท่านพระภูมิสิริ                                      เจริญสติพวกเราที่เฝ้าบ่น

มิตรสหายจากไปก็หลายคน                                        ทุกข์ท่วมท้นหม่นหมองมาต้องใจ

     ขอเพื่อนรักไปสู่สุคติ                                               เพื่อนดำรินำหนุนทำบุญให้

มาวันนี้พวกเราพร้อมใจ                                               ทุกคนไปวะภูแก้วแล้วร่วมเอย  

ด้วยอาลัยใจคิดถึงมิตรรัก                                     ได้ประจักษ์ความโศกวิโยคเอ๋ย

จรุงเพื่อนเหมือนใจจะขาดเลย                                    ณรงค์เคยใกล้ชิดสนิทกัน

อีกธีระ นิรมล ประไพพิศ                                   ล้วนสนิทจากไปใจโศกศัลย์

ปิยเทพ พิณวิภา และพิมพ์พันธ์                             จากไกลกันไปลับไม่กลับมา

รัศมี(ศิริไพบูลย์สินธ์) วีรชัย และสมวิทย์        เคยใกล้ชิดวันก่อนตอนศึกษา

แต่วันนี้ไม่มีแล้วเพื่อนแก้วลา                                       สู่ฟากฟ้าสุราลัยใจระทม

อีกสมัย สุวิมล(ชาญมานนท์) คนลาจาก            คิดถึงมากอิราวดีที่งามสม

สง่านักอมราลักษณ์มลายลม                                    ให้เพื่อนสมไปที่ชอบขอปลอบใจ

ส่งเพื่อนรักไปสู่สุคติ                                             เราดำริทำบุญเกื้อหนุนให้

หก พ.ย.ห้าเก้าเราพร้อมใจ                                          ส่งเพื่อนไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าเอย

 

                                                                                    จากเพื่อนอักษรศาสตร์จุฬารุ่น37

 

รายนามเพื่อนอักษรศาสตร์จุฬารุ่น37ที่จากไป

 

  1. นาย จรุง จุลพุ์ปสาสน์
  2. นาย ณรงค์ พรพิริยะกุลชัย
  3. นาย ธีระ ปิยคุณากร
  4. นางสาว นิรมล โชติกุญชร
  5. พันเอกหญิง ประไพพิศ วรวัฒนชัย
  6. นาย ปิยเทพ คนึงหมาย
  7. นางสาว พิณวิภา รุจิเรข
  8. นางสาว พิมพ์พันธ์ พุทธประสิทธิ์
  9. พลเรือตรีหญิง รัศมี ศิริไพบูลย์สินธ์
  10. นาย วีรชัย ปิยสุนทราวงษ์
  11. นาย สมวิทย์ วัฒนบุตร
  12. นาย สมัย เทียบคุณ
  13. นางสาว สุวิมล ชาญมานนท์
  14. นางสาว อมราลักษณ์ วาทยานนท์
  15. นาง อิราวดี นวมานนท์

    

   เป็นวันที่เงียบเชียบและเรียบร้อย

เพื่อนยังคอยแก้ไขให้อยู่หนา

ชื่อใครผิดที่ไหนให้บอกมา

ลลิดาแก้แล้วเพื่อนแก้วเอย

กลับขึ้นด้านบน

สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์

Copyright 2024 The Faculty of Arts Chulalongkorn University