Faculty of Arts อาจารย์-บุคลากร
นิสิตปัจจุบัน
ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษา
ศิษย์เก่า
 
Home | Download |
about us

 

 

 

 

 

หน้าแรก ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษา  มุมมองอักษรผ่านศิษย์เก่าคนดัง

มุมมองอักษรผ่านศิษย์เก่าคนดัง

บทสัมภาษณ์ศิษย์เก่า คนดัง จาก รำแพนฉบับครบขวบ (ปี 2553) จัดทำโดย ฝ่ายสาราณียกร คณะกรรมการนิสิตอักษรศาสตร์

ประยอม ชองทอง

กวีผู้เป็นเจ้าของร้อยกลอนที่เปี่ยมไปด้วยถ้อยคำที่สวยงามสะเทือนอารมณ์ ผสมแนวคิดและมุมมองต่อสังคมถ่ายทอดสู่สาธารณชนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เป็นนิสิตอักษรศาสตร์ รุ่น อ.บ. 24 อีกทั้งยังได้รับ ยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2548

“ที่เลือกอักษรศาสตร์เพราะว่าติดใจอาจารย์คนหนึ่งที่ท่านเป็นอักษรศาสตร์บัณฑิต แล้วไปสอนที่โรงเรียนตอน ม.5-ม.6 แล้วเราชอบท่านนี้มาก ท่านเล่าให้ฟังว่า ต้นจามจุรีที่จุฬาเนี่ย มียอดต้นไม้ประสานกัน เหมือนเวลาเราเดินเข้าไปแล้วต้นจามจุรีจะคอยต้อนรับเราอยู่ โห พูดซะจนเกิดความรู้สึก ทั้งๆ ที่ผมจบ ม.6 แล้วไม่ได้เรียนเตรียมฯ อ้อมไปเรียนฝึกหัดครู 3 ปี แล้วค่อยกลับมาสอบ เสียเวลา 3 ปี ไม่ใช่ 2 ปี เหมือนคนอื่นๆ”

“ตอนที่เรียนสนุกสนานมาก เข้าห้องเรียนน้อยจนอาจารย์จำหน้าไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ความที่เราทำกิจกรรมมาตั้งแต่ปี 1 เข้าไปปี 1 ไปเป็นผู้ช่วยสาราณียกรเพราะว่าตอนเรียนฝึกหัดครูเป็นสาราณียากรของกลุ่ม แล้วปีที่ 2 ก็เป็นเอง เป็นสาราฯ ปีที่ 3 ก็นเป็นสาราณียากร ส.จ.ม (สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) แล้วปี 4 ก็เป็นผู้แทนฯ พอเราจบออกมาไปทำงานแล้ว เขาก็ยกย่องให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่น”

“สิ่งที่ประทับใจคือ เราผู้ชายน้อยๆที่นั่นน่ะนะ เราจะเกาะกลุ่มดีมาก จะมีวันหนึ่งที่พี่เก่าที่จบไปแล้วเขาจะมานัดกันว่า วันนี้ชุมนุมนิสิตชายนะ มาสัมภาษณ์นิสิตชาย พี่เก่าๆที่อยู่ตามกระทรวงอะไรต่างๆ ที่มีงานไม่มีงานก็จะกลับมาหา แล้วก็จะมาสัมภาษณ์เราว่าทำไมเรามาเข้าคณะนี้ จะทำอะไรให้คณะได้บ้าง”

“พวกอาจารย์ อย่างอาจารย์จิตรเกษม ศรีบุญเรือง หรืออาจารย์จินตนา ยศสุนทร ก็จะบอกว่า “เธอเป็นผู้ชายอักษรเนี่ย ต้องเป็นผู้ชายให้เป็นแมนนะเธอ อย่างไปเดินค้อมๆ หลังโกง แล้วเดินกับสุภาพสตรีเนี่ย ต้องเดินด้านนอก ปล่อยให้ผู้หญิงเดินริมถนนแล้วรถเฉี่ยวไปไม่ได้” เน้นเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษมาก วันที่ 3 มกราคม เป็นวันเจนเทิลเมนมีทติ้ง วันเกิดคณะ เราต้องมา”

“ที่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ก็เพราะเรียนอักษรนี่แหละ ความที่เราชอบภาษาไทย ชอบการแต่งร้อยกรอง ชอบเขียนตั้งแต่อยู่คณะ ไปเปิดดูในหนังสือเก่าๆ จะเจอชื่อบ้างนะ”

“ก็แนะนำว่า เราถนัดอะไรก็ให้ทำอย่างานั้น แต่ว่าไม่ทิ้งอย่างอื่น เมื่อเราทำอะไรได้ให้รีบทำ แล้วก็แสดงออกมาให้เพื่อนฝูงเห็นว่าในงานเหล่านั้นเราจะช่วยเค้าได้ ผู้ชายที่มีน้อยเนี่ย เราจะต้องจับมือกันเรื่อยๆ แล้วก็อย่างลืมผู้หญิงนะ เคยได้ข่าวรึเปล่าละว่าไปท้าตีกับพวกวิศวะ (หัวเราะ) เข้าก็ไม่ได้รุมไม่ได้อะไร เข้าก็ว่า เขาต้องมาจีบสาวพวกเราอ่ะ สาวๆอักษรสวยๆเขาก็ต้องมาจีบ เพราะฉะนั้นชืนมาตีกับพวกเราเนี่ยนะ ไม่ให้เข้าคณะ ไม่ให้เข้าตึก (หัวเราะ) พวกผู้หญิงอักษรฯกับผู้หญิงที่อื่นจะต่างกันแต่ผู้หญิงอักษรฯ จะต้องเป็นผู้หญิงและผู้ชาย แล้วผู้ชายก็เหมือนกันต้องเป็นผู้ชาย ต่อให้เป็น หน่อมแน้มยังไงรึ ยังไงอ่ะ เป็นพวก...แด๊ะๆ ก็ตามนะ แต่ว่าต้องเป็นผุ้ชายเวลามาเรียนแล้วเจอพี่ๆ เขาก็จะสอนกันอย่างงี้ว่าผู้ชายต้องเป็นผู้ชายให้เค้าพึ่งพาอาศัยได้”

“วิชาอักษรศาสตร์เป็นวิชาที่หากินได้ตลอดชีวิต คุณจะเป็นอะไรก็ตาม เขายกย่องคนอักษรฯ ว่าทำได้ทุกอย่างความสามารถจะต้องแสดงให้เขาเห็น ไม่ใช่ไปอวดตัวแต่ใครทำอะไรได้ ก็ต้องคิดช่วย วิชาอักษรฯ เป็นวิชาที่ผมภูมิใจมาก ที่เป็นตัวเป็นตนทุกวันนี้ได้ ก็เพราะเป็นผู้ชายอักษรฯ เรียนอักษรฯมา”

 

 
 
See Also
นิสิตปัจจุบัน
เกี่ยวกับคณะอักษรศาสตร์