๏
ประกอบด้วยโภชนากระยาหาร |
ทุกถิ่นฐานบริบูรณ์หนักหนา |
อยู่เย็นเป็นสุขทุกทิวา
|
เช้าค่ำอัตราทั้งราตรี
|
ประหนึ่งว่าจะไม่มีค่ำคืน
|
รวยรื่นเป็นสุขเกษมศรี
|
ไม่เห็นเช่นว่าจะเป็นถึงเพียงนี้
|
มาเยินยับอัปรีย์ศรีศักดิ์คลาย
|
ทั้งถนนหนทางอารามราช
|
มาวินาศสิ้นสุดสูญหาย
|
สารพัดย่อยยับกลับกลาย
|
อันตรายไปจนพื้นปัถพี
|
เมื่อพระกาฬจะมาผลาญดังทำนาย
|
แสนเสียดายภูมิพื้นกรุงศรี
|
บริเวณอื้ออลด้วยชลธี
|
ประดุจเกาะอสุรีลงกา
|
เป็นคันขอบชอบกลถึงเพียงนี้
|
มาเสียสูญไพรีอนาถา
|
ผู้ใดใครเห็นจะไม่นำพา
|
อยุธยาอาภัพลับไป
|
เห็นจะสิ้นอายุพระนคร |
ให้อาวรณ์ผู้รักษาหามีไม่ |
เป็นป่าหญ้ารกดังพงไพร
|
แต่จะสาบสูญไปทุกทิวา |
คิดมาก็เป็นน่าอนิจจัง |
ด้วยกรุงเป็นที่ตั้งพระศาสนา
|
ทั้งอารามเจดีย์ที่บูชา
|
ปฏิมาฉลององค์พระทรงญาณ |
ก็ทลายยับยุ่ยเป็นผุยผง
|
เหมือนพระองค์เสด็จดับสังขาร
|
ยังไม่สิ้นศาสนามาอรธาน
|
ทั้งเจดีย์วิหารก็สูญไป
|
เสียดายพระนิเวศน์บุรีวัง
|
พระที่นั่งทั้งสามงามไสว
(1) |
ตั้งเรียบระเบียบขั้นเป็นหลั่นไป
|
อำไพวิจิตรรจนา
|
มุขโถงมุขเด็จมุขกระสัน
|
เป็นเชิงชั้นลวดลายล้วนเลขา
|
เพดานในไว้ดวงดารา
|
ผนังฝาดาดแก้วดังวิมาน
|
ที่ตั้งบัลลังก์แก้วทุกองค์
|
ทวารลงอัฒจันทร์หน้าฉาน |
ปราบพื้นรื่นราบดังพระลาน
|
มีโรงคชาธารตระการตา |
ทิมดาบคดลดพื้นกำแพงแก้ว
|
เป็นถ่องแถวยืดยาวกันหนักหนา |
เป็นที่แขกเฝ้าเข้าวันทา |
ดั่งเทวานฤมิตประดิษฐ์ไว้
|
สืบทรงวงศ์กษัตริย์มาช้านาน
|
แต่บุราณแล้วไม่นับพระองค์ได้
|
พระที่นั่งซึ่งตั้งอยู่ข้างใน
|
มีสระชลาลัยชลธี
|
ชื่อที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์
|
ที่ประพาสมัจฉาในสระศรี
|
ทางเสด็จเสร็จสิ้นสารพันมี
|
เป็นที่กษัตริย์สืบมา
|
ก็สูญสิ้นศรีมลายหายหมด
|
จะปรากฏสักสิ่งไม่มีว่า
|
อันถนนหนทางมรรคา
|
คิดมาก็เสียดายทุกสิ่งอัน
|
ร้านเรียบเป็นระเบียบด้วยรุกขา |
ขายของนานาทุกสิ่งสรรพ์
|
ทั้งพิธีปีเดือนทุกคืนวัน
|
สารพันจะมีอยู่อัตรา
|
ฤดูใดก็ได้เล่นเกษมสุข
|
แสนสนุกทั่วเมืองหรรษา
|
ตั้งแต่นี้แลหนาอกอา
|
อยุธยาจะสาบสูญไป
|
จะหาไหนได้เหมือนกรุงแล้ว
|
ดังดวงแก้วอันสิ้นแสงใส |
นับวันแต่จะยับลับไป
|
ที่ไหนจะคืนคงมา |
ไป่ปรากฏเหตุเสียเหมือนดังนี้
|
มีแต่บรมสุขา
|
ครั้งนี้มีแต่พื้นพสุธา |
อนิจจาสังเวชทนาใจ
|
ทั้งนี้เป็นต้นด้วยผลเหตุ |
จะอาเพศกษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ |
มิได้พิจารณาข้าไท
|
เคยใช้ก็เลี้ยงด้วยเมตตา
|
ไม่รู้รอบประกอบในราชกิจ
|
ประพฤติการแต่ที่ผิดด้วยอิจฉา |
สุภาษิตท่านกล่าวเป็นราวมา
|
จะตั้งแต่งเสนาธิบดี
|
ไม่ควรอย่าให้อัครฐาน
|
จะเสียการแผ่นดินกรุงศรี
|
เพราะไม่ฟังตำนานโบราณมี
|
จึงเสียทีเสียวงศ์กษัตรา
|
เสียยศเสียศักดิ์นัคเรศ
|
เสียทั้งพระนิเวศน์วงศา |
เสียทั้งตระกูลนานา
|
เสียทั้งไพร่ฟ้าประชากร
|
สารพัดจะเสียสิ้นสุด
|
ทั้งการยุทธก็ไม่เตรียมฝึกสอน |
จึงไม่รู้กู้แก้พระนคร
|
เหมือนหนอนเบียนให้ประจำกรรม
|
อันจะเป็นเสนาธิบดี
|
ควรที่จะพิทักษ์อุปถัมภ์
|
ประกอบการหว่านปรายไว้หลายชั้น
|
ป้องกันปัจจาอย่าให้มี
|
นี่ทำหาเป็นเช่นนั้นไม่
|
เหมือนไพร่ชาติชั่วช้ากระทาสี
|
เหตุภัยใกล้กรายร้ายดี
|
ไม่มีที่จะรู้สักประการ |
ศึกมาแล้วก็ล่าไปทันที
|
มิได้มีเหตุเสียจึงแตกฉาน
|
ตีกวาดผู้คนไม่ทนทาน
|
เผาบ้านเมืองยับจนกลับไป
(2) |
ถึงเพียงนี้ละไม่มีที่กริ่งเลย
|
ไม่เคยรู้ล่วงลัดจะคิดได้
|
ศึกมาชิงล่าเลิกกลับไป
|
มิได้เห็นจะฝืนคืนมา
|
จะคิดโบราณอย่างนี้ก็หาไม่
|
ชาติไพร่หลงฟุ้งแต่ยศถา
|
ครั้นทัพเขากลับยกมา
|
จะองอาจอาสาก็ไม่มี
|
แต่เลี้ยวลดปดเจ้าทุกเช้าค่ำ
|
จนเมืองคร่ำเป็นผุยยับยี่
|
ฉิบหายตายล้มไม่สมประดี |
เมืองยับอัปรีย์จนทุกวันฯ |
๏
เหตุเสียกรุงศรีอยุธยา |
เหมือนคำที่ว่าไม่เสกสรร
|
ชะล่าใจเคยได้แต่ครั้งนั้น
|
จึงประชิดติดพันแต่นั้นมา
|
แตกยับกลับไปก็หลายหน |
คิดกลจะลวงให้หลงหา |
แต่งคนให้ถือหนังสือมา
|
เจรจาความเมืองเป็นไมตรี
|
ทำไว้แต่พอให้รอรั้ง
|
ขยับยกเข้ามาตั้งตะนาวศรี
|
จะเดินมั่นกันติดทางตี
|
ทำนองที่จะคิดให้ชิดไว้
|
เห็นจะผ่อนโยธาอาหาร |
มันคิดการมิให้ใครสงสัย
|
จะนิ่งอยู่ดูเบาเอาใจ
|
เห็นเหตุภัยจะเกิดการมา |
จะเร่งลัดตัดคิดมันเสียก่อน |
บั่นรอนอย่าให้ทันแน่นหนา
|
จำจะคิดให้ผิดแต่ก่อนมา |
เป็นทัพหน้านาวายกไป
|
ตามทางทะเลไปสงขลา |
จะขุดพสุธาเป็นคลองใหญ่
|
ให้เรือรบออกประจบเอาเมืองไทร
(3) |
ปากใต้ฝ่ายทะเลให้พร้อมกัน
|
จึงจะยกไปตีเอามะริด
|
จะปิดปากน้ำเสียให้มั่น
|
ทัพเรือมันจะพลอยเข้าช่วยกัน
|
จะตีบั่นเกยทัพให้ยับไป
|
รบไหนจะให้ยับลงที่นั่น
|
แต่กึ่งวันไม่ให้ทนทานได้
|
จะทำการครั้งนี้ให้มีชัย |
จะไว้เกียรติให้สืบทั้งแผ่นดิน
|
มันทำเมืองเราก่อนเท่าใด
|
จะทดแทนมันให้หมดสิ้น
|
มันจิตอหังการ์ทามิฬ
|
จะล้างให้สุดสิ้นอย่าสงกา
|
การเสร็จสำเร็จลงเมื่อใด
|
ซึ่งคิดไว้ขอให้สมปรารถนา
|
แม้นมิได้ก็ไม่กลับคืนมา |
จะเห็นเมืองพม่าในครั้งนี้
|
เกรงกริ่งอยู่แต่ข้างทัพบก
|
จะไม่ยกหักได้ให้ถึงที่
|
เกลือกมันกั้นตัดทางตี
|
จะตัดที่เสบียงอาหารไว้
|
ไม่สมคะเนให้เรรวน
|
ทำป่วนไม่หักเอามันได้
|
เท่านี้ดอกที่วิตกใจ
|
จะทำให้เสียการเหมือนทวาย
|
เมื่อชนะแล้วกลับแพ้ให้แชไป
|
จึงเสียชัยเสียเชิงไม่สมหมาย
|
พากันหนีแต่ไม่มีอันตราย |
ถ้าเสียหายอย่างอื่นไม่เป็นไร |
อันกรุงรัตนอังวะครั้งนี้ฤา |
จักพ้นเนื้อมืออย่าสงสัย
|
พม่าจะมาเป็นข้าไท
|
จะได้ใช้สร้างกรุงอยุธยา |
แม้นสมดังจิตไม่ผิดหมาย |
จะเสี่ยงทายตามบุพเพวาสนา |
จะได้ชูกู้ยกนัครา |
สมดังปรารถนาทุกสิ่งอัน
|
ถ้าเสร็จการอังวะลงตราบใด |
จะพาใจเป็นสุขเกษมสันต์
|
อ้ายชาติพม่ามันอาธรรม์
|
เที่ยวล้างขอบขัณฑ์ทุกพารา
|
แต่ก่อนก็มิให้มีความสุข
|
รบรุกฆ่าฟันเสียหนักหนา |
แต่บ้านร้างเมืองเซทั้งวัดวา |
ยับเยินเป็นป่าทุกตำบล |
มันไม่คิดบาปกรรมอ้ายลำบาก
|
แต่พลัดพรากจากกันทุกแห่งหน |
มันเหล่าอาสัตย์ทรชน
|
ครั้งนี้จะป่นเป็นธุลี
|
เพราะเหตุบาปกรรมมาซ้ำเติม
|
จะพูนเพิ่มให้ระยำยับยี่
|
ด้วยทำนายว่าไว้แต่ก่อนมี
|
เหมือนครั้งมอญไปตีเอานัครา
|
คือหงส์มาหลงกินน้ำหนอง
|
เหตุต้องเมืองมอญหงสา |
ตัวนายอองไจยคือพรานป่า |
คิดฆ่าหงส์ตายจึงได้ดี
|
คือพม่ามาตีเอามอญได้
|
ก็สมในทำนายเป็นถ้วนถี่
|
ยังแต่พยัคฆ์เรืองฤทธี
|
จะกินพรานที่ยิงหงส์ตาย
|
บัดนี้ก็ถึงแก่กำหนด
|
จะปรากฏโดยเหตุเป็นกฎหมาย
|
ทัพเราเข้าต้องคำทำนาย
|
คือเสือร้ายอันแรงฤทธา
|
จะไปกินพรานป่าที่ฆ่าหงส์
|
ให้ปลดปลงม้วยชีพสังขาร์
|
แล้วมีคำทำนายบุราณมา |
ว่าพม่าจะสิ้นซึ่งรูปกาย
|
ถ้าผู้ใดใครเห็นให้เขียนไว้
|
จึงจะได้ประจักษ์สืบสาย
|
เห็นเป็นเหตุต้องเหมือนคำทาย |
อังวะจะฉิบหายในครั้งนี้
|
ถ้าพร้อมใจพร้อมจิตช่วยคิดการ
|
จะสำราญทั่วโลกเกษมศรี
|
นี่จนใจสิ่งไรก็ไม่มี
|
เห็นทีจะตะพายไปตามจน
|
จะไปได้ฤามิได้ยังไม่รู้
|
จะเสือกสู้ไปตามขัดสน |
ถ้าสุดคิดผิดหมายที่ผ่อนปรน |
ก็จะบนบวงสรวงแก่เทวา
|
เดชะเทเวศร์ช่วยอวยชัย
|
ที่คิดไว้ขอให้สมปรารถนา
|
ตั้งแต่สวรรค์ชั้นกามา |
ตลอดจนมหาอัครพรหม |
ขอจงมาช่วยอวยพรชัย
|
ที่มาดไว้ให้ได้ดังประสงค์
|
จะดลใจไทยกรุงให้นิยม
|
ช่วยระดมกันให้สิ้นศึกเอยฯ
|