คำถามที่ถามบ่อย(FAQs) เกี่ยวกับ “กลุ่มภารกิจ งานบุคคลและสวัสดิการ”
และ “กลุ่มภารกิจสารบรรณ พิธีการและอาคารสถานที่”

(คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดคำถามที่ถามบ่อยในรูปแบบไฟล์ pdf)


1. ขั้นตอนการบรรจุพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการเป็นอย่างไร

การบรรจุพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การบรรจุนักเรียนทุนและการบรรจุบุคคลทั่วไป

 2. การรับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการมีขั้นตอนอย่างไร

     กรณีบรรจุนักเรียนทุน (ไม่ต้องประกาศรับสมัคร)

  • ภาควิชาทำบันทึกขออนุมัติอัตราบรรจุนักเรียนทุนระบุชื่อ-นามสกุล ชื่อทุน วุฒิที่จบ และแนบเอกสาร ใบสมัครงาน วุฒิการศึกษา สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
  • งานบุคคลจะเสนอคณะกรรมการบริหารคณะฯ พิจารณาอนุมัติ
  • งานบุคคลแจ้งภาควิชาให้ทำบันทึกเสนอชื่อคณะกรรมการสอบคัดเลือกฯ (นักเรียนทุน) และแจ้งวัน เวลา สถานที่สอบข้อเขียนและสัมภาษณ์

คณบดี                                  ประธาน
รองคณบดี (ด้านวิชาการ)            กรรมการ
หัวหน้าภาควิชา                        กรรมการ
(อาจารย์ในภาค/สาขา)               กรรมการและเลขานุการ
เจ้าหน้าที่บุคคล                        ผู้ช่วยเลขานุการ        

**รองคณบดี (คณะศิลปกรรมศาสตร์/รองผู้อำนวยการสถาบันภาษา) เข้าร่วมสอบสัมภาษณ์ตามระเบียบการสรรหาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 กรณีบรรจุบุคคลทั่วไป (หากภาควิชา/ศูนย์ได้รับอนุมัติอัตราบรรจุพนักงานฯแล้ว)

  • งานบุคคลจะส่งบันทึกและประกาศรับสมัครให้ตรวจสอบสาขาวิชาที่รับสมัคร และกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง และให้ภาควิชาส่งใบประกาศดังกล่าวกลับมาที่งานบุคคล พร้อมทั้งเสนอรายชื่ออาจารย์ในภาควิชา 2 ท่าน (หัวหน้าภาค + อาจารย์ในภาค/สาขา) เพื่อเป็นกรรมการสอบคัดเลือกฯ
  • งานบุคคลประกาศรับสมัครผ่านระบบ ที่ www.hrm.chula.ac.th/รับสมัครงาน โดยรับสมัครไม่น้อยกว่า 15 วัน
  • งานบุคคลแต่งตั้งคณะกรรมการฯ
  • หากปิดรับสมัครแล้วงานบุคคลจะส่งรายชื่อ ใบสมัคร วุฒิการศึกษา และคุณสมบัติของผู้สมัครให้ภาควิชาตรวจสอบและแจ้งวัน/เวลา/สถานที่สอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์
  • งานบุคคลทำบันทึกเชิญกรรมการสอบสัมภาษณ์ (เอกสารเชิญสอบสัมภาษณ์ของหัวหน้าภาควิชาจะแนบแบบฟอร์มกรอกผลคะแนนไปให้เพื่อให้คณะกรรมการลงนามในวันสอบสัมภาษณ์)
  • เมื่อการสอบเสร็จสิ้นภาควิชาส่งผลคะแนนสอบที่งานบุคคล และงานบุคคลทำเรื่องขอบรรจุจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการเข้าคณะกรรมการบริหารคณะฯ เพื่อเสนอมหาวิทยาลัยตามขั้นตอนต่อไป


3. 
คณะกรรมการสรรหาพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ (อาจารย์) ประกอบด้วยใครบ้าง

คณบดี รองคณบดีที่ดูแลด้านวิชาการ รองคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์/ผู้อำนวยการสถาบันภาษา(จำนวน 1 ท่าน เป็นกรรมการโดยระเบียบการสรรหาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)  หัวหน้าภาควิชา และพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการในภาควิชา

คณบดี                                  ประธาน
รองคณบดี (ด้านวิชาการ)   กรรมการ
หัวหน้าภาควิชา                   กรรมการ
(อาจารย์ในภาค/สาขา)      กรรมการและเลขานุการ
เจ้าหน้าที่บุคคล                  ผู้ช่วยเลขานุการ        

4. การขอจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ มีขั้นตอนอย่างไร

หลังจากกระบวนการสรรหาเสร็จสิ้นลงแล้ว ภาควิชาส่งใบสมัคร สำเนาบัตรประชาชน/สำเนารับรองวุฒิการศึกษา/ทะเบียนบ้าน/ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร/หน้าสมุดบัญชี ข้อตกลงภาระงาน (assignment sheet) แบบแสดงหน้าที่และความรับผิดชอบ (job description) ของพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการที่ผ่านการสรรหามาที่งานบุคคล หลังจากผ่านการอนุมัติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์แล้ว งานบุคคลจะส่งสัญญาทดลองปฏิบัติงานให้ลงนาม ก่อนจะส่งให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบและออกคำสั่งอนุมัติการจ้าง ระหว่างนี้งานบุคคลจะทำเรื่องตรวจสอบวุฒิและประวัติของพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการด้วย

5. การตรวจสอบวุฒิการศึกษาของพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการมีขั้นตอนอย่างไร

งานบุคคลจะส่งคำขอตรวจสอบวุฒิการศึกษาไปยังสถาบันที่พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการสำเร็จการศึกษามา และรอการแจ้งผลตอบกลับ

6. การตรวจสอบประวัติของพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการใหม่มีขั้นตอนอย่างไร

งานบุคคลจะออกจดหมายให้พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการถือจดหมายดังกล่าวเพื่อไปตรวจสอบประวัติของตนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งผลการตรวจสอบประวัติแจ้งมาที่คณะ

7. กระบวนการขอบรรจุพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการใช้เวลาประมาณเท่าไหร่

โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน


8. 
สามารถขอบรรจุพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการที่มีเพียงวุฒิปริญญาตรีหรือวุฒิปริญญาโทได้หรือไม่

ตามข้อบังคับจุฬาฯ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2557 หมวด 3 พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการกลุ่มคณาจารย์ประจำ และกลุ่มนักวิจัย จะต้องจบการศึกษาระดับไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หากมีความจำเป็นต้องรับพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการด้วยวุฒิปริญญาตรีหรือวุฒิปริญญาโท จะต้องขอยกเว้นคุณสมบัติเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งหน่วยงานจะต้องชี้แจงและอธิบายถึงความจำเป็นอย่างยิ่งยวด พร้อมทั้งแสดงคุณสมบัติที่โดดเด่นของผู้สมัคร แผนและทุนการศึกษาที่ชัดเจนของผู้สมัครเพื่อจะศึกษาได้จนถึงระดับปริญญาเอก รวมทั้งเสนอแผนการพัฒนาของหน่วยงานที่ตรงกับนโยบายของคณะฯและมหาวิทยาลัย เมื่อพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการท่านนั้นได้วุฒิระดับปริญญาเอกแล้วจะต้องขอปรับวุฒิการศึกษาหลังจากพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการจบการศึกษาระดับปริญญาเอกแล้วด้วย (โดยเสนอเข้าคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์ และเสนอไปที่มหาวิทยาลัยตามขั้นตอนต่อไป)


9. 
การขอยกเว้นคุณสมบัติพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการบรรจุใหม่มีขั้นตอนอย่างไร

ก่อนการรับสมัคร ภาควิชาส่งบันทึกข้อความชี้แจงเหตุผล พร้อมแนบแบบฟอร์มขอยกเว้นคุณสมบัติและแผนการดำเนินงานของภาค ส่งให้งานบุคคล เพื่อรอการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์และเสนอไปที่มหาวิทยาลัยตามขั้นตอนต่อไป


10. 
สามารถจ้างอาจารย์ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วได้หรือไม่

ภาควิชาสามารถเชิญอาจารย์ที่เกษียณแล้วมาช่วยสอนในรายวิชาที่ยังหาผู้สอนไม่ได้ในฐานะอาจารย์พิเศษในบางรายวิชา แต่หากหน่วยงานมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องทำสัญญาจ้างอาจารย์ที่เกษียณแล้ว ขอให้ปรึกษากับคณะผู้บริหาร  หากเห็นพ้องว่าเป็นเรื่องจำเป็นจึงให้ทำเรื่องขออนุมัติจากกรรมการบริหารคณะฯ


11. คณะจะจ้างอาจารย์ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วไม่เกินกี่ปีนับจากวันที่เกษียณ

คณะไม่สนับสนุนให้มีการจ้างต่อเนื่อง  ภาควิชาควรหารือกับคณะผู้บริหารเพื่อวางแผนแก้ปัญหาระยะยาว

12. อัตราเงินเดือนของอาจารย์ที่เกษียณอายุราชการแล้วจะเท่ากับอัตราเงินเดือนก่อนเกษียณหรือไม่

ไม่เท่ากัน  จะได้อัตราเงินเดือนที่ต่ำกว่าอัตราเงินเดือนก่อนเกษียณ (อัตราเงินเดือนตามวุฒิบรรจุพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ) 

13. การจ้างอาจารย์ที่เกษียณอายุราชการแล้วมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ภาควิชาส่งบันทึกพร้อมแบบฟอร์มขอจ้างบุคคลอายุเกิน 60 ปี (ล่วงหน้า 4 เดือนก่อนเกษียณอายุกรณีมีตำแหน่งทางวิชาการต่ำกว่าศาสตราจารย์) ประวัติพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ ข้อตกลงภาระงาน ให้งานบุคคล หลังจากผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์แล้วพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการจะได้รับแจ้งให้ไปตรวจสุขภาพกายที่ศูนย์บริการสุขภาพและตรวจสุขภาพจิตที่คณะแพทยศาสตร์ เมื่อมหาวิทยาลัยอนุมัติแล้วงานบุคคลจะนัดพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการมาทำสัญญาปฏิบัติงานหรือส่งสัญญาปฏิบัติงานให้ที่ภาควิชา

14. การรับสมัครอาจารย์ชาวต่างชาติ (ลูกจ้างชาวต่างประเทศ และพนักงานวิสามัญ) มีขั้นตอนอย่างไร

สำหรับอาจารย์ชาวต่างชาติ ให้ภาควิชาเป็นผู้ดำเนินการสรรหา งานบุคคลจะดำเนินการในขั้นตอนการขอจ้างเท่านั้น

15. การขอจ้างอาจารย์ชาวต่างชาติ (ลูกจ้างชาวต่างประเทศ และพนักงานวิสามัญ) มีขั้นตอนอย่างไร

กรณีเป็นอาจารย์ชาวต่างประเทศ หลังจากภาควิชาสรรหาและได้คนแล้ว ภาควิชาส่งบันทึกขอจ้างมาที่งานบุคคลพร้อมแนบเอกสารการสมัครงาน (วุฒิการศึกษา  สำเนาหนังสือเดินทาง (passport) ที่มีวีซ่าแบบ non-immigrant B และสำเนาใบอนุญาตทำงาน (work permit) สำเนาใบผ่านงาน (ถ้ามี)

กรณีเป็นพนักงานวิสามัญ ภาควิชาทำบันทึกขออนุมัติอัตราจ้างพนักงานวิสามัญ (ซึ่งจะต้องระบุโครงการเพื่อขออัตราจ้างตามแบบฟอร์ม) และขอจ้างพนักงานวิสามัญ โดยระบุชื่อ และตำแหน่งที่จะขอจ้าง และงานบุคคลจะเสนอเรื่องเข้าคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์เพื่อส่งขออนุมัติมหาวิทยาลัยตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้หากมหาวิทยาลัยอนุมัติอัตราจ้างพนักงานวิสามัญแล้วจึงจะทำเรื่องขอจ้างพนักงานวิสามัญได้ แต่หากมหาวิทยาลัยไม่อนุมัติอัตราดังกล่าวก็ไม่สามารถจ้างพนักงานวิสามัญได้

16. การรับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ ต่างจากการรับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการจะต้องเปิดรับสมัครไม่ต่ำกว่า 15 วัน และรับสมัครผ่าน www.hrm.chula.ac.th/รับสมัครงาน ทั้งนี้ผู้สมัครต้องสอบข้อสอบประเมินความถนัดของมหาวิทยาลัยโดยผลสอบต้องไม่ต่ำกว่าระดับปานกลาง


17. 
ข้อสอบกลาง (ประเมินความถนัด) มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

ข้อสอบเป็นคณิตศาสตร์ และภาษาไทย


18. สัญญาทดลองปฏิบัติงานมีระยะเวลาเท่าไหร่

12 เดือน

19. การประเมินผลในสัญญาทดลองปฏิบัติงานมีทั้งหมดกี่ครั้ง

2 ครั้ง ครั้งที่หนึ่งประเมินของ 4 เดือนแรก ครั้งที่สองประเมินของ 8 เดือนหลัง


20. 
การประเมินผลการทดลองปฏิบัติงานครั้งใดที่จะมีการขึ้นเปอร์เซ็นต์เงินเดือน

ครั้งที่สอง จะขึ้นเมื่อครบทดลองปฏิบัติงานครบ 12 เดือนแล้ว

21. จะได้รับการขึ้นเงินเดือน(จากการประเมินผลการทดลองปฏิบัติงาน) ได้มากที่สุดกี่เปอร์เซนต์

ไม่เกิน 4 เปอร์เซ็นต์ ของเงินเดือน

22. การต่อสัญญาจ้างหลังจากการประเมินผลสัญญาทดลองปฏิบัติงานมีขั้นตอนอย่างไร

งานบุคคลส่งบันทึกแจ้งหัวหน้าภาควิชา/ผู้อำนวยการศูนย์ พร้อมแนบแบบประเมินต่อสัญญาปฏิบัติงาน ให้ประเมินต่อสัญญาพนักงานฯ และให้ส่งกลับคืนมาที่งานบุคคล เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนจะนัดประชุมกรรมการประเมินของคณะอักษรศาสตร์ และส่งผลเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์ หลังจากนั้นจึงส่งสัญญาฉบับใหม่ให้พนักงานมหาวิทยาลัยลงนาม และส่งสัญญาคืนที่งานบุคคล


23. 
การต่อสัญญาจ้างมีขั้นตอนแตกต่างจากการต่อสัญญาจ้างหลังจากการประเมินผลสัญญาทดลองปฏิบัติงานอย่างไร

มีขั้นตอนเหมือนกัน การต่อสัญญาจ้างจะอ้างอิงผลการประเมินประจำปีที่ผ่านมาทั้งหมด

24. เงื่อนไขการขอตำแหน่งทางวิชาการตามสัญญาจ้างมีใจความอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการจะต้องขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์และรองศาสตราจารย์ให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด


25. 
การขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ตามสัญญาจ้างมีระยะเวลาเท่าไหร่

จะต้องขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ภายในสัญญาจ้าง 3 ฉบับ ดังนี้
ฉบับที่หนึ่ง (
3 ปี) ฉบับที่สอง (2 ปี) ฉบับที่สาม (2 ปี)


26. 
การขอตำแหน่งรองศาสตราจารย์ตามสัญญาจ้างมีระยะเวลาเท่าไหร่

จะต้องขอตำแหน่งรองศาสตราจารย์ภายในสัญญาจ้าง 3 ฉบับ ดังนี้
ฉบับที่หนึ่ง (
5 ปี) ฉบับที่สอง (3 ปี) ฉบับที่สาม (3 ปี)

27. กระบวนการสิ้นสุดสัญญาเนื่องจากไม่ได้ยื่นเรื่องขอตำแหน่งทางวิชาการเป็นอย่างไร

งานบุคคลจะส่งบันทึกแจ้งเตือนให้พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการลงนามรับทราบล่วงหน้า 5-6 เดือนก่อนหมดสัญญา หลังจากนั้นจึงส่งเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์และแจ้งกับมหาวิทยาลัยต่อไป

28. หากไม่ได้ยื่นเรื่องขอตำแหน่งภายในระยะเวลาที่สัญญาจ้างกำหนดทำให้ถูกยกเลิกสัญญา จะยังได้รับเงินชดเชยหรือไม่

ได้รับเงินชดเชยตามปกติ ตามข้อบังคับจุฬาฯ

29. หากสัญญาจ้างฉบับสุดท้ายกำลังจะสิ้นสุดลงและได้ยื่นเรื่องขอตำแหน่งไปแล้วแต่ยังไม่ทราบผล ต้องทำอย่างไร

สามารถต่อสัญญารอผลการขอตำแหน่งทางวิชาการอีกได้ 12 เดือน โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์ก่อน หลังจากมหาวิทยาลัยประกาศผลการขอตำแหน่งแล้วจึงจะทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาใหม่ต่อไป

30. การขอปรับวุฒิการศึกษาเมื่อได้วุฒิปริญญาเอกแล้วมีขั้นตอนอย่างไร

หลังจากได้วุฒิปริญญาเอกแล้ว พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการส่งบันทึกขอปรับวุฒิการศึกษาผ่านภาควิชาเพื่อรอการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์ และงานบุคคลจะจัดทำสัญญาใหม่ให้พนักงานมหาวิทยาลัยลงนามและส่งเรื่องขอปรับวุฒิไปที่มหาวิทยาลัยตามขั้นตอนต่อไป

31. จะขอลาออกต้องทำอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการทำบันทึกขอลาออกล่วงหน้า 1 เดือน พร้อมแนบแบบฟอร์ม พม.15 (และสำเนาหน้าบัญชีหากเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ส่งผ่านภาควิชามาที่งานบุคคล เพื่อส่งมหาวิทยาลัยตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับในกรณีเปลี่ยนตำแหน่งหรือสอบได้ที่คณะอื่น ให้แนบแบบฟอร์ม พม.27

32. ขอรับสิทธิ์ประกันสังคมต้องทำอย่างไร

กรอกแบบฟอร์มส่งให้กับงานบุคคล

33. สามารถใช้สิทธิ์ได้ที่โรงพยาบาลใดบ้าง

ในขั้นตอนการสมัครจะได้รับรายชื่อโรงพยาบาลมาให้เลือก


34. 
สามารถขอเปลี่ยนโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิ์ได้หรือไม่

สามารถขอเปลี่ยนได้ปีละ 1 ครั้ง (ช่วงเดือนมกราคม)


35. 
หากจะขอเปลี่ยนโรงพยาบาลที่สังกัดในการรับสิทธิ์ประกันสังคมต้องทำอย่างไร

กรอกแบบฟอร์มที่ใช้ขอรับสิทธิ์พร้อมแนบบัตรใบเก่าส่งให้งานบุคคล


36. 
สมัครเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องทำอย่างไร

กรอกใบสมัครส่งให้งานบุคคล

37. สามารถสมัครเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ในช่วงใดบ้าง

สมัครได้ตลอดทั้งปี

38. จะได้รับการแจ้งยอดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อไหร่

ทุกๆ 6 เดือน


39. 
สามารถขอเปลี่ยนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ในช่วงใด

พร้อมกันกับตอนที่ได้รับแจ้งยอดกองทุน

40. หากต้องการเปลี่ยนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องทำอย่างไร

กรอกรายละเอียดในใบขอเปลี่ยนกองทุนส่งให้งานบุคคล


41. 
ขอรับสิทธิ์ประกันสุขภาพกลุ่มต้องทำอย่างไร

ส่งใบสมัครให้งานบุคคล

42. สามารถขอซื้อสิทธิ์ประกันสุขภาพกลุ่มเพิ่มให้กับผู้อื่นได้หรือไม่

สามารถขอซื้อสิทธิ์ให้กับบิดา มารดา บุตร และคู่สมรสที่มีอายุไม่เกิน 65 ปีได้ และต้องแถลงสุขภาพ  (เงื่อนไขคือต้องไม่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง)

43. ประกันสุขภาพกลุ่มคุ้มครองอะไรบ้าง

สามารถดูรายละเอียดได้ที่  http://www.hrm.chula.ac.th/newhrm/ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม/

44. ขอเบิกค่ารักษาพยาบาลโดยใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพกลุ่มต้องทำอย่างไร

ส่งใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ให้งานบุคคลตรวจสอบก่อนส่งให้มหาวิทยาลัยดำเนินการ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วงานการเงินของมหาวิทยาลัยจะโอนเงินเข้ายังบัญชีที่ได้แจ้งไว้


45. 
ขอรับเงินทุนอุดหนุนการศึกษาบุตรประจำปีต้องทำอย่างไร

รอรับแบบฟอร์มจากงานบุคคลเพื่อกรอกข้อมูลส่งคืนงานบุคคลภายในเดือนสิงหาคมของทุกปี


46. 
จะได้เงินทุนอุดหนุนการศึกษาบุตรประจำปีเท่าไหร่

ช่วงชั้น ป.1 – ป.6 ได้ 2,000 บาทต่อปี
ช่วงชั้น ม.1 – ปวช. ได้ 3,200 บาทต่อปี

(ยกเว้นบุตรที่ศึกษาที่สาธิตจุฬาฯ จะไม่สามารถเบิกได้)


47. 
ต้องทำงานนานเท่าไหร่จึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินทุนอุดหนุนการศึกษาบุตรประจำปี

อย่างน้อย 1 ปี


48. 
ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินทุนอุดหนุนการศึกษาบุตรประจำปีคือใคร

ข้าราชการ ลูกจ้างประจำฯ พนักงานมหาวิทยาลัย ที่บุตรไม่ได้เข้าสาธิตจุฬาฯ

 
49. ใครจะได้สิทธิ์สมัครเข้าสาธิตจุฬาฯ

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ และพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการระดับ P6 ขึ้นไป (ต้องทำงานในระดับ P6 เป็นระยะเวลา 3 ปีขึ้นไป)


50. ผู้ได้สิทธิ์สมัครเข้าสาธิตจุฬาฯ (ฝ่ายประถม) จะสมัครเข้าในชั้นปีอะไรและบุตรต้องมีอายุเท่าไหร่

สมัครเข้าในชั้น ป.1 บุตรอายุ 6 ปี


51. 
จะขอใช้สิทธิ์สมัครเข้าสาธิตจุฬาฯ ทำอย่างไร

รอรับแบบฟอร์มจากงานบุคคลเพื่อกรอกข้อมูลส่งคืน (ต้องสมัครล่วงหน้า 5 ปี)


52. 
การตรวจสุขภาพประจำปีมีขั้นตอนอย่างไร

งานบุคคลจะส่งคำชี้แจงวัน เวลา และสถานที่ให้ไปตรวจสุขภาพพร้อมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการตรวจ หลังจากตรวจแล้วประมาณ 2 เดือนจะได้รับผลการตรวจจากจุฬาฯ ผ่านงานบุคคล


53. 
ขอหนังสือรับรองการทำงานต้องทำอย่างไร

กรอกแบบฟอร์มส่งให้งานบุคคลล่วงหน้า 3 วัน

54. หากต้องการให้ออกหนังสือรับรองเงินเดือนด้วยต้องทำอย่างไร

แจ้งรายละเอียดในแบบฟอร์มขอหนังสือรับรองการทำงาน


55. 
การขอหนังสือรับรองการทำงานต้องใช้เวลานานเท่าใด

ประมาณ 3 วัน


56. 
การขอหนังสือรับรองการทำงานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษใช้เวลาเท่ากันหรือไม่

เท่ากัน


57. 
ขอจองรถตู้ของคณะต้องทำอย่างไร

ให้จองรถผ่านระบบ Arts One Stop Service (http://www.arts.chula.ac.th/~v2017/)


58. เวลาการใช้รถตู้คณะฯตามปกติคือช่วงเวลาใด

วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 7.30 น. – 16.30 น. (สามารถขอจองรถนอกเวลาราชการได้หากคนขับรถตู้สะดวกทำงานในช่วงเวลาดังกล่าว)


59. 
หากต้องการจองใช้รถนอกเวลาราชการต้องทำอย่างไร

 ให้จองรถผ่านระบบ Arts One Stop Service (http://www.arts.chula.ac.th/~v2017/)
โดยให้พิมพ์ใบจองในระบบออกมา และให้หัวหน้าภาควิชาหรือหัวหน้าหน่วยงานลงนามล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน


60. 
การจองรถตู้นอกเวลาราชการมีค่าใช้จ่ายหรือไม่

ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ คนขับรถสามารถนำแบบฟอร์มการจองรถมาทำเรื่องเบิกเงินนอกเวลาราชการได้ โดยวันจันทร์ถึงวันศุกร์เบิกได้ 4 ชั่วโมง วันเสาร์และอาทิตย์เบิกได้ 7 ชั่วโมง


61. 
สามารถจองใช้รถนอกเวลาได้ในช่วงเวลาใดบ้าง

ไม่มีกำหนดเวลา แต่คนขับรถตู้ต้องสะดวกทำงานในช่วงเวลาดังกล่าว


62. 
รถตู้ของคณะมีทั้งหมดกี่คัน

2 คัน


63. 
สามารถจองรถไปต่างจังหวัดสามารถได้หรือไม่

กรณีขอใช้รถไปต่างจังหวัด จะใช้ได้ในเขตปริมณฑล จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม (ระยะห่างจากคณะฯไม่เกิน 80 กิโลเมตร) และเป็นการใช้ในรายวิชา ไม่สามารถใช้ในการทำกิจกรรมของนิสิตได้ การใช้รถไปต่างจังหวัดต้องแจ้งและจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันทำการ


64.
การขอลา ป.พ. มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
ส่งบันทึกขอลา ป.พ. พร้อมแนบแบบฟอร์ม ประวัติส่วนตัว และโครงร่างงานวิจัย แผนการดำเนินงานลาป.พ. ผ่านภาควิชามาที่งานบุคคล เพื่อรอการอนุมัติจากคณะกรรมการ ก.พ.ส.(คณะกรรมการกลั่นกรองการอนุมัติลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการประจำส่วนงาน) จากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์ (อาจมีความเห็นจากคณะกรรมการ ก.พ.ส.ให้พิจารณาแก้ไขโครงร่าง)

65. หากจะลา ป.พ. ต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อไหร่
สามารถยื่นเรื่องลาได้ 2 ช่วง ใน 1 ปี คือ เดือนพฤษภาคม (เพื่อลาเดือนมกราคมของปีถัดไป) และเดือนธันวาคม (เพื่อลาเดือนสิงหาคมของปีถัดไป)

66. การลาป.พ. ต้องศึกษาข้อบังคับและประกาศ ที่ใด
การยื่นการลาป.พ.ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ให้ใช้ข้อบังคับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าด้วย การให้บุคลากรสายวิชาการลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ พ.ศ. 2562 รายละเอียดที่

https://www.hrm.chula.ac.th/newhrm/wp-content/uploads/2019/06/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%99-%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.-2562-2.pdf

นอกจากนี้ ให้ใช้ควบคู่กับประกาศ คณะอักษรศาสตร์ว่าด้วย แผนแม่บท หลักเกณฑ์การกำหนดประเภทผลงานและผลผลิต สำหรับการประกอบการเสนอขออนุมัติ การลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการของบุคลากรสายวิชาการ ที่ได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วไป ประกอบด้วย

67. ในการลา ป.พ. แต่ละครั้งต้องทิ้งระยะห่างนานแค่ไหน
ต้องปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี (ไม่นับระยะเวลาลาศึกษา/ฝึกอบรม/ดูงาน/วิจัย)
– การลาครั้งต่อไป หลังจากกลับจากการลาป.พ. ก่อนหน้า ไม่น้อยกว่า 5 ปี

68. ช่วงที่ลา ป.พ. จะได้รับเงินเดือนและการพิจารณาขึ้นเงินเดือนตามปกติหรือไม่
ได้รับเงินเดือนและการขึ้นเงินเดือนตามปกติ

69. ช่วงที่ลา ป.พ. จะเดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่
ไปได้ แต่ต้องเขียนระบุไว้ในแผนดำเนินงานของการลาป.พ. หากไม่ได้ระบุในแผนดังกล่าวจำเป็นต้องทำเรื่องขออนุมัติปรับแผน และงานบุคคลจะเสนอคณะกรรมการบริหารคณะฯเพื่อส่งให้มหาวิทยาลัยต่อไป
นอกจากนี้ นอกเหนือจากการทำแผนดำเนินงานดังกล่าวแล้ว จะต้องทำเรื่องลาไปต่างประเทศล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันทำการก่อนเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้อ้างอิงแผนการดำเนินงานของการลา ป.พ. ที่แก้ไข และจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนเดินทาง

70. จะต้องรายงานความก้าวหน้าการลาป.พ.ทุกๆ กี่เดือน
ทุก 3 เดือน (เดือนที่ 3, 6, 9, 12)

71. การรายงานความก้าวหน้าการลาป.พ.มีขั้นตอนอย่างไร
ข้าราชการ/พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการกรอกแบบฟอร์มและแนบผลงานของตนส่งให้ภาควิชา ภาควิชาจะส่งให้งานบุคคลเสนอคณะกรรมการ ก.พ.ส.ก่อนเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์และส่งให้มหาวิทยาลัยต่อไป

72. จะต้องส่งรายงานฉบับสมบูรณ์การลาป.พ.เมื่อไหร่
หลังจากครบกำหนดการลา 1 เดือน (เช่น กรณีลา 12 เดือนต้องส่งรายงานภายในเดือนที่ 13)

73. การส่งรายงานฉบับสมบูรณ์การลาป.พ.มีขั้นตอนอย่างไร
พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการกรอกแบบฟอร์มและแนบรายงานฉบับสมบูรณ์ส่งให้งานบุคคลผ่านภาควิชา งานบุคคลจะส่งให้คณะกรรมการ ก.พ.ส. (คณะกรรมการกลั่นกรองการอนุมัติลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการประจำส่วนงาน)พิจารณา และส่งให้อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิประเมิน
(อาจมีความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิให้พิจารณาแก้ไข) จากนั้นงานบุคคลจะเสนอต่อคณะกรรมการ ก.พ.ส. ก่อนเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์ต่อไป

74. ใครเป็นผู้กำหนดผู้ทรงคุณวุฒิที่อ่านรายงานฉบับสมบูรณ์การลา ป.พ.
คณะกรรมการ ก.พ.ส. (คณะกรรมการกลั่นกรองการอนุมัติลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการประจำส่วนงาน)

75. ผู้ทรงคุณวุฒิที่อ่านรายงานฉบับสมบูรณ์การลา ป.พ. มีจำนวนกี่ท่าน
1 ท่าน ต่อ 1 สาขาวิชา ทั้งนี้แล้วแต่ คณะกรรมการ ก.พ.ส. (คณะกรรมการกลั่นกรองการอนุมัติลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการประจำส่วนงาน)

76. หากไม่ส่งรายงานฉบับสมบูรณ์การลา ป.พ. จะต้องรับโทษอย่างไร
จะไม่สามารถลา ป.พ. ได้อีก และจะไม่ได้รับการพิจารณาขึ้นเงินเดือนในปีนั้น นอกจากนี้อาจจะมีบทลงโทษอื่นตามประกาศของคณะอักษรศาสตร์ และตามมติของคณะกรรมการ ก.พ.ส. (คณะกรรมการกลั่นกรองการอนุมัติลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการประจำส่วนงาน)

77. การขอลาปฏิบัติงานต่างประเทศมีขั้นตอนอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการทำบันทึกแจ้งงานบุคคลและรอการอนุมัติจากคณบดี หากลาเกิน 15วัน จะต้องรอมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์

78. สามารถลาปฏิบัติงานต่างประเทศได้นานเท่าไร

แล้วแต่กรณี ตามประเภทของการลา (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่งานบุคคล)


79. 
สามารถขอลาปฏิบัติงานต่างประเทศเป็นระยะเวลามากกว่า 3 เดือนได้หรือไม่

หากลาเกิน 3 เดือนจะต้องขอลาฝึกอบรมวิจัย ซึ่งมีขั้นตอนเหมือนกับการลาศึกษาต่อ

80. กระบวนการลาศึกษาต่อ/ลาฝึกอบรมวิจัยเป็นอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการที่จะลาจะต้องส่งบันทึกแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน หลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารคณะอักษรศาสตร์แล้ว งานบุคคลจะนัดพนักงานมหาวิทยาลัยมาทำสัญญา หลังจากนั้นคณะจึงส่งเรื่องต่อให้มหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณา พร้อมทั้งส่งบันทึกแจ้งวันเดินทางเพื่อให้มหาวิทยาลัยออกคำสั่งลาศึกษาต่อ

81. ต้องทำงานมาอย่างน้อยเท่าใด จึงจะลาศึกษาต่อได้

ต้องทำงานครบ 1 ปี

82. ขณะที่ลาศึกษาต่อหรือลาอบรม จะได้รับเงินเดือนหรือไม่

ได้รับเงินเดือนตามปกติ แต่จะไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน

83. การลาประเภทใดบ้างที่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

ลาฝึกอบรมวิจัยและลาศึกษาต่อ

84. การทำสัญญาเพื่อลาศึกษาต่อ ใครจะเป็นผู้ค้ำประกันได้

บิดาและมารดา หรือ คู่สมรสและพี่น้องสายเลือดเดียวกัน

85. การขอขยายเวลาศึกษาต่อทำอย่างไร

ภาควิชาส่งบันทึกและจดหมายแจ้งรายละเอียดของ อ.ที่ปรึกษา ส่งมาที่งานบุคคลก่อนหมดสัญญา 1 ปี

86. หากไม่สามารถกลับมาปฏิบัติงานได้ ต้องชดใช้เป็นจำนวนเงินเท่าใด

ขึ้นอยู่กับสัญญาทุนการศึกษาที่ทำกับมหาวิทยาลัย

87. หลังจากลาอบรม ลาศึกษาต่อแล้วต้องกลับมาปฏิบัติงานเป็นเวลานานเท่าใด

เป็นระยะเวลา 2 เท่าของช่วงเวลาที่ลา

88. การลาศึกษาครึ่งเวลาคืออะไร ต่างกับลาศึกษาเต็มเวลาอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการจะต้องปฏิบัติงานสอนด้วยและลาศึกษาในวันที่ไม่มีสอน การลาศึกษาครึ่งเวลาไม่ต้องทำสัญญาเหมือนการลาศึกษาเต็มเวลา

 
89. สามารถขอลาได้ในรูปแบบใดบ้างและมีระยะเวลามากสุดเท่าไหร่

  • ลาป่วยไม่เกิน 30 วัน ต่อปีงบประมาณ
  • ลากิจไม่เกิน 10 วัน ต่อปีงบประมาณ
  • ลาพักผ่อนไม่เกิน 10 วัน ต่อปีงบประมาณ
  • ลาคลอดไม่เกิน 90 วัน (หญิง)
  • ลาดูแลบุตรไม่เกิน 10 วัน (ชาย)


90. 
การขอลาแบบต่างๆ ข้างต้นมีขั้นตอนอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการส่งใบลาพนักงานมหาวิทยาลัยให้กับงานบุคคล โดยมีหัวหน้าภาควิชาลงนามรับรอง


91 
มีการลาประเภทใดที่สามารถนำวันลาที่เหลือไปสะสมรวมกับวันลาของปีงบประมาณถัดไปได้บ้างหรือไม่

วันลาพักผ่อนสามารถสะสมรวมกับปีงบประมาณถัดไปไม่เกิน 20 วัน (30 วัน สำหรับตำแหน่งศาสตราจารย์)


92. เงินชดเชยวันลา (กรณีเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญา) คิดในอัตราเท่าไหร่

 (เงินเดือนก่อนเกษียณ × จำนวนวันลาพักผ่อนสะสมที่เหลือ(ไม่เกิน20วันทำการ))/ (30(จำนวนวันในเดือนสุดท้ายก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ))

93. แต่ละปีงบประมาณเริ่มนับตั้งแต่วันที่เท่าไหร่

1 ต.ค. – 30ก.ย. ของปีถัดไป


94. 
จำนวนวันลาในหนึ่งปีงบประมาณของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการแตกต่างกับของพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการหรือไม่

ไม่แตกต่างกัน

95. ขั้นตอนการลาออนไลน์ของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการเป็นอย่างไร

ก่อนหน้าวันลา 3 วัน log in เข้าเว็บไซต์ ess.it.chula.ac.th ด้วยรหัสผ่านที่ได้รับ เลือกหัวข้องานบริหารจัดการด้านการลา และกรอกรายละเอียดใบลา


96. 
จำเป็นต้องแนบไฟล์เป็นหลักฐานด้วยหรือไม่

ขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกันภายในหน่วยงาน ปัจจุบันฝ่ายบริหารคณะอักษรศาสตร์มีมติให้แนบใบลงนามแทนด้วย


97. 
การแนบไฟล์ใบลงนามแทนทำอย่างไร

สแกนเอกสารดังกล่าวเป็นไฟล์รูปภาพแล้วอัพโหลดเข้าสู่ระบบ


98. 
เข็มทองคำเกียรติคุณคืออะไร ต้องทำงานมาครบกี่ปีจึงจะได้เข็มดังกล่าว

เข็มเชิดชูเกียรติของจุฬาฯ ที่มีให้กับบุคลากรผู้ทำงานกับจุฬาฯ เป็นเวลา 25 ปีเต็ม (สามารถนับตั้งแต่บรรจุที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานมหาวิทยาลัยหรือพนักงานวิสามัญ)

99. เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยมีอะไรบ้าง

พนักงานหมวดเงินอุดหนุนมีสิทธิ์ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พนักงานหมวดเงินรายได้ไม่สามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้

 

รายละเอียดของเครื่องราชอิสริยาภรณ์และคุณสมบัติผู้ขอ มีดังต่อไปนี้

พนักงานมหาวิทยาลัย

หมวดเงินอุดหนุน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ที่พึงขอพระราชทาน

คุณสมบัติ
1.  ประจำแผนกหรือ

ตำแหน่งเทียบเท่า

บ.ม.

บ.ช
จ.ม.

จ.ช.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ บ.ม.

–  ได้ บ.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ บ.ช. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ จ.ม. มาแล้ว 5 ปี

2.  หัวหน้าแผนก หรือ

ตำแหน่งเทียบเท่า

จ.ม.

จ.ช.

ต.ม.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ จ.ม.

–  ได้ จ.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ จ.ช. มาแล้ว 5 ปี

3.  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือ

อาจารย์

จ.ช.

ต.ม.

ต.ช.

ท.ม.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ จ.ช.

–  ได้ จ.ช. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ต.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ต.ช. มาแล้ว 5 ปี

4.  ผู้ช่วยอธิการบดี รอง

คณบดี

รองผู้อำนวยการศูนย์

รองผู้อำนวยการสถาบัน

หัวหน้าภาควิชา

หรือตำแหน่งเทียบเท่า

ต.ม.

ต.ช.

ท.ม.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ ต.ม.

–  ได้ ต.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ต.ช. มาแล้ว 5 ปี

5.  รองศาสตราจารย์ ต.ม.

ต.ช.

ท.ม.

ท.ช.

ป.ม.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ ต.ม.

–  ได้ ต.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ต.ช. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ท.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ท.ช. มาแล้ว 3 ปี

6.  รองอธิการบดี คณบดี

ผู้อำนวยการสถาบัน

ผู้อำนวยการการศูนย์ หรือ

ตำแหน่งเทียบเท่า

ท.ม.

ท.ช.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ ท.ม.

–  ได้ ท.ม. มาแล้ว 5 ปี

7.  ศาสตราจารย์ ท.ม.

ท.ช.

ป.ม.

ป.ช.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ ท.ม.

–  ได้ ท.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ท.ช. มาแล้ว 3 ปี

–  ได้ ป.ม. มาแล้ว 3 ปี

8.  อธิการบดี หรือ

ตำแหน่งเทียบเท่า

ท.ม.

ท.ช.

ป.ม.

–  ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 5 ปีบริบูรณ์ ขอ ท.ม.

–  ได้ ท.ม. มาแล้ว 5 ปี

–  ได้ ท.ช. มาแล้ว 3 ปี


100. ขั้นตอนการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นอย่างไร

งานการเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้ทั้งหมด ส่วนชั้นสายสะพายขึ้นไป เมื่อมีการโปรดเกล้าฯและกำหนดวันเข้ารับพระราชทานวันใด งานการเจ้าหน้าที่ ป.ม. ขึ้นไป จะแจ้งวันเวลาให้ไปเข้าร่วมพิธีประราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วยตนเอง

101. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดจะได้รับถาวรหรือไม่

ไม่ได้รับถาวร และต้องส่งคืนทั้งหมดเมื่อถึงแก่กรรม แต่จะมีใบประกาศแจกให้ทุกระดับชั้นเครี่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ ยกเว้นเหรียญจักรพรรดิมาลาที่ไม่ต้องคืน


102. 
การขอเลื่อนชั้นเครื่องราชอิสริยาภรณ์แต่ละครั้งต้องเว้นระยะเวลากี่ปี

5 ปี ยกเว้น

  • การเลื่อนชั้น ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.) ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) สำหรับรองศาสตราจารย์และอธิการบดี เว้นระยะเวลา 3 ปี
  • การเลื่อนชั้น ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.) ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)  ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) สำหรับศาสตราจารย์ เว้นระยะเวลา 3 ปี

103. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในระดับชั้นใดที่มีสายสะพาย

ตั้งแต่ชั้น ประถมาภรณ์ช้างเผือกขึ้นไป

104. สามารถขอพระราชทานเพลิงศพให้กับตนเองได้ตั้งแต่ระดับชั้นใด

เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)


105. 
สามารถขอพระราชทานเพลิงศพให้กับบิดา-มารดาได้ตั้งแต่ระดับชั้นใด

ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)

106. การยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการมีขั้นตอนอย่างไร

พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการส่งผลงาน แบบฟอร์มขอตำแหน่งทางวิชาการ พร้อมแนบเอกสารประกอบการสอน ประมวลรายวิชา และแบบประเมินรายวิชา ของ 1 รายวิชา (2 ภาคการศึกษา) ที่พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการเป็นผู้สอน มาที่งานบุคคล หลังจากงานบุคคลนัดประชุมกรรมการพิจารณาการขอตำแหน่งแล้วจะแจ้งให้พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการส่งบันทึกขอตำแหน่งทางวิชาการและรอผลการพิจารณา

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.arts.chula.ac.th/fpcs/


107. 
สามารถใช้เอกสาร/แบบประเมินของวิชาที่สอนร่วมกับพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการท่านอื่นได้หรือไม่

สามารถทำได้ โดยใช้เอกสารในส่วนของตนเองซึ่งจะต้องมีชั่วโมงการสอนรวมกันไม่น้อยกว่ารายวิชา 2 หน่วยกิต (32 ชั่วโมงการสอน)


108. 
ต้องรอผลการพิจารณาขอตำแหน่งนานแค่ไหน

โดยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใช้อ่านผลงาน (หากมติของคณะกรรมการไม่เป็นเอกฉันท์จะต้องนัดประชุมเพิ่มด้วย) เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ต้องส่งเรื่องติดต่อระหว่างคณะและมหาวิทยาลัยด้วยแล้วโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3-12 เดือน


109. หลังจากการขอตำแหน่งฯ เสร็จสิ้นแล้วจะต้องทำอย่างไร

งานบุคคลจะแจ้งนัดวันให้พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการไปลงนามสัญญาฉบับใหม่

 

ตัวอย่างเอกสาร

  1. ใบประกาศรับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการใหม่
  2. ใบสมัครสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ
  3. แบบฟอร์มขอยกเว้นคุณสมบัติ
  4. แบบฟอร์มขอจ้างบุคคลอายุเกิน 60 ปี
  5. แบบฟอร์มขอลาออก
  6. ใบขอรับรองสิทธิประกันสังคม
  7. ใบสมัครกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  8. แบบฟอร์มขอเปลี่ยนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  9. แบบฟอร์มขอรับสิทธิ์ประกันสุขภาพกลุ่ม
  10. แบบฟอร์มขอรับเงินทุนอุดหนุนการศึกษาบุตรประจำปี
  11. แบบฟอร์มขอใช้สิทธิ์สมัครเข้าสาธิตจุฬาฯ
  12. แบบฟอร์มขอหนังสือรับรองการทำงาน
  13. แบบฟอร์มขออนุมัติลา ป.พ.
  14. แบบฟอร์มรายงานความก้าวหน้า
  15. แบบฟอร์มขอส่งรายงานฉบับสมบูรณ์
  16. แบบคำขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ
  17. แบบสรุปเอกสารประเมินการสอน
  18. แบบแสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ
  19. ใบลา
  20. ใบลงนามแทน