Faculty of Arts อาจารย์-บุคลากร
นิสิตปัจจุบัน
ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษา
ศิษย์เก่า
 
Home | Download |
about us

 

 

 

 

 

หน้าแรก ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษา  มุมมองอักษรผ่านศิษย์เก่าคนดัง

มุมมองอักษรผ่านศิษย์เก่าคนดัง

บทสัมภาษณ์ศิษย์เก่า คนดัง จาก รำแพนฉบับครบขวบ (ปี 2553) จัดทำโดย ฝ่ายสาราณียกร คณะกรรมการนิสิตอักษรศาสตร์

นุสบา ปุณณกัณต์

นิสิตเก่าคณะอักษรศาสตร์รหัส 33 และนักแสดงเจ้าบทบาทผู้ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องการเรียนและการงานเพราะสำหรับเธอแล้ว ทั้งสองสิ่งต้องสามารถทำเคียงคู่ไปด้วยกันได้และที่พิเศษสุดก็คือ เธอ สามารถทำมันได้ดีมากด้วยค่ะ

ถ้ากล่าวถึงชื่อ นุสบา ปุณณกัณต์(วาณิชอังกูร) ทุกคนจะต้องนึกถึงนางเอกชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นละครโทรทัศน์ อาทิ รักในรอยแค้น, เมืองมายา ภาพยนตร์ อาทิ เรืองมยุรา หรือผลงานล่าสุดอย่าง แม่หญิง และ ฮีโร่ 1000 รัก

ทำไมถึงเลือกอักษรศาสตร์
ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่โรงเรียนเซนต์โอเซฟคอนแวน แล้วสมัยก่อนยังมีสอบเทียบอยู่พี่ก็เลยสอบเทียบคือไม่ได้เรียน ม.6 ที่อยากเข้าคณะนี้ก็มีหลายสาเหตุ ลาเหตุแรกก็คือว่าคุณแม่พี่ท่านจบคณะนี้แล้วคุณแม่ก็ชอบพูดถึงกิจกรรม พูดถึงชีวิตในคณะให้ฟังตั้งแต่เด็ก เราก็ได้ยินมาแล้วเราก็รู้สึกว่าเรามีความภาคภูมิใจ แล้วคุณแม่พี่ท่านก็เป็นดรัมเมเยอร์ของจุฬาฯด้วย เค้าก็จะมีรูปสมัยเรียนติดข้างฝาที่บ้านเต็มไปหมด มันยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากเหมือนเค้า แต่คุณแม่พี่ก็คุยกับพี่ว่าอย่าเข้าเพราะทำตาม คือเข้าไปแล้วเรียนหนักนะ ถ้าไม่ชอบจริงๆ ก็อาจจะไม่มีความสุข ก็เลยถามตัวเองกอีกครั้งก่อน แล้วก็ตัดสินใจจะไปสอบเทียบ เพราะเป็นการสอบเทียบเลยไม่ค่อยกดดันตัวเองเท่าไร แต่ก็ดูหนังสือหนัก เนื่องจากว่าโม้กับเพื่อนไว้เยอะ ว่าชั้นจะไปแล้วนะ เราไม่ได้เจอกันตอน ม.6 แล้ว ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวไม่ได้แล้ว เสียหน้าเพื่อนเพราะเราไปโม้ไว้เยอะ ก็เลยฮึดมากแล้วก็ดูหนังสือหนัก จนกระทั่งสอบเข้าได้

พี่เลือกเอกภาษาอังกฤษ โทภาษาฝรั่งเศส เพราะว่าชอบด้านภาษา พี่ชอบเรียนภาษา แล้วตอนที่อยู่มัฐยมปลายพี่ก็เรียนภาษาฝรั่งเศสมาก็รู้สึกว่าทำได้ดี ก็อยู่ในระดับ top ของห้องมาตลอด ก็เลยคิดว่าก็ควรจะเรียนมันต่อเนื่องเพราะว่าเราทำสิ่งนี้ได้ดี อาจจะชอบหรือเปล่าไม่รู้เนอะ

บรรยากาศสมัยอยู่อักษรฯ
สมัยที่พี่เรียนนะ คณะเราเป็นคณะที่เด็กเรียนหนังสือหนักแล้วก็มีกิจกรรมน้อย เนื่องจากว่าเวลาส่วนใหญ่ต้องใช้กับการเรียนและต้องดูหนังสือสอบ ยิ่งพวกเอกภาษาต่างๆ เราต้องอ่าน Textbook เยอะมากเลย
ทุกคนก้มหน้าก้มตาทำงาน ทุกคนก็พยายามที่จะทำคณะให้ได้โดยเฉพาะพี่ เรียนเอกภาษาอังกฤษก็มีเด็กเรียนเยอะที่สุดในบรรดาเอกต่างๆ พอคนเรียนเยอะการแข่งขันมันก็สูง แล้วพี่เป็นคนที่ไม่ยอมด้วยเรื่องเรียนพี่ไม่ของแพ้ใคร พี่สู้ตาย คือแบบพี่ต้องได้ A อะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) มีความมุมานะมาก ก็เลยยิ่งเรียนหนักขึ้นไปอีก จำได้ว่าตอนเรียนมีเพื่อนน้อยมากเพราะมัวแต่เรียน มีหนุ่มมาแอบดูบ้างแต่ว่าไม่มีแฟน ไม่คบใครเลย ไม่มีแฟนเลย (เสียงเน้นย้ำ) อยู่จุฬาฯตั้ง 4 ปี (หัวเราะ)

พี่ได้เกียรตินิยมอันดับสอง ตอนแรกพี่ตั้งใจจะเอาเกียรตินิยมอันดับ 1 ไง แต่พี่มัวแต่ไปเล่นละคร ก็เลยไม่สามารถทำได้ (หัวเราะ) เผอิญว่าพอพี่เข้าไปปีหนึ่งแล้วพี่ก็เริ่มโดนชวนเข้าวงการ แล้วก็เริ่มเล่นละครต่อเนื่องมา วิ่งรอกไปถ่ายละครแล้วก็วิ่งไปเรียน ชุดบางทีก็ต้องมาเปลี่ยนในรถเพื่อที่จะเข้าห้องเรียนให้ทัน บางครั้งเข้าห้องช้าด้วย บางทีไปสอบไม่ทันก็มี เพราะฉะนั้นความฝันที่เราจะได้เกียรตินิยม อันดับหนึ่งมันก็เลยสลายไป

ด้านกิจกรรม พี่อยู่ชมรมวาทศิลป์ของจุฬาฯใหญ่ ตอนเย็นเลิกเรียนก็มีการรวมกลุ่มของสมาชิกในชมรมทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม รูปแบบของงานถ้าเป็นจุฬาฯส่วนใหญ่พี่จะช่วยในงานละครเวที ของคณะ ก็มีละครของนลินี สีตะสุวรรณ ท่านเขียนบทเก่งมาก อาจารย์ก็นำพี่ไปเล่นละครการกุศลบ้าง ละครเวทีเทิดพระเกียรติบ้าง ในนามของจุฬาฯนะ

คนทั่วไปมองนิสิตอักษรฯว่าต้อง สวย เก่ง ไฮโซ พี่มีมุมมองอย่างไรกับความคิดนี้
พี่ก็แปลกใจนะ ก็ไม่รู้ว่าทำไม อย่างตั้งแต่รุ่นคุณแม่พี่ก็เป็นเหมือนกัน ทุกคนอาจจะมีความรู้สึกเหมือนพี่ คือเห็นแม่เรา หรือเค้าอาจจะเห็นแม่หรือญาติหรือใครสักคนเรียนที่อักษรฯ แล้วสวยจัง อยากเป็นอย่างนั้นบ้าง มันก็เป็นไปได้เหมือนกันถ่ายทอดกันมาเป็นรุ่นๆ แต่พี่ว่าเด็กอักษรจะมี Character ที่คล้ายๆกันคือจะมีความสุขุม ไม่โฉ่งฉ่าง โหวกเหวก โวยวายมากเกิน แต่กับเพื่อนนี่ก็โอเค พี่เอกกับเพื่อนก็เฮฮาปาร์ตี้กันแต่พออยู่ในสังคมก็รู้จักวางตัว ถ้าไม่สนิทก็จะดูเป็นคนมีมาดเหมือนนักวิชาการเล็กๆ ดูมีภูมิอะไรบางอย่าง พี่ไม่เคยเห็นรุ่นพี่รุ่นน้องคนไหนที่พูดจาเยิ่นเย้อ เลอะเทอะ แล้วเวลาทำงานเด็กอักษรฯก็ทำหลายอาชีพมาก บางทีถามว่าจบแล้วไปเป็นอะไร ก็มึนๆไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่ขอบอกว่าทำได้ทุกอย่างและทำได้ดีด้วย

 
 
See Also
นิสิตปัจจุบัน
เกี่ยวกับคณะอักษรศาสตร์