เรื่องเล่าของผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้า: แบบเรื่องและความสัมพันธ์กับสังคมไทยร่วมสมัย

เรื่องเล่าของผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้า: แบบเรื่องและความสัมพันธ์กับสังคมไทยร่วมสมัย

เสาวภาคย์ ขันมั่น

ปริญญานิพนธ์อักษรศาสตรบัณฑิต
ภาควิชาภาษาไทย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปีการศึกษา ๒๕๖๐

วัตถุประสงค์ของการศึกษา
๑. เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์แบบเรื่องของเรื่องเล่าของผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้า
๒. เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเรื่องเล่าดังกล่าวกับสังคมไทยร่วมสมัย

สมมติฐานของการศึกษา
เรื่องเล่าของผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้ามีแบบเรื่องหลากหลายและสะท้อนให้เห็นปัญหาด้านต่าง ๆ ในสังคมไทยร่วมสมัย ทั้งปัญหาในครอบครัว ในที่ทํางาน และในสถานศึกษา รวมทั้งสะท้อนให้เห็นสาเหตุที่ทําให้
เกิดความไม่เข้าใจระหว่างผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ากับคนทั่วไปในสังคม

บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่องเล่าของผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้าในเชิงคติชนประยุกต์ โดยวิเคราะห์แบบเรื่องและความสัมพันธ์ของเรื่องเล่าดังกล่าวกับสังคมไทยร่วมสมัย ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาคือเรื่องเล่าจากผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้าที่อาสาเป็นผู้ให้ข้อมูลจํานวน ๗๕ เรื่อง

ผลการศึกษาพบว่าเรื่องเล่าดังกล่าวสามารถจัดแบบเรื่องได้ มีทั้งแบบเรื่องเดี่ยวและแบบเรื่องผสม แบบเรื่องเดี่ยวมี ๕ แบบเรื่อง ได้แก่ แบบเรื่อง (ก) การมีสังคมแวดล้อมที่ไม่ดี แบบเรื่อง (ข) ความผิดปกติของสารสื่อประสาท แบบเรื่อง (ค) ความผิดหวังของคนสมบูรณ์แบบ แบบเรื่อง (ง) การสูญเสียเสาหลักในชีวิต และแบบเรื่อง (จ) การเผชิญเหตุการณ์สะเทือนใจ ส่วนแบบเรื่องผสมมี ๔ แบบเรื่อง เป็นการผสมระหว่างแบบเรื่อง (ก) กับแบบเรื่องอื่น ๆ ในกลุ่มแบบเรื่องเดี่ยว ได้แก่ แบบเรื่อง (ก)+(ข) แบบเรื่อง (ก)+(ค) แบบเรื่อง (ก)+(ง) และแบบเรื่อง (ก)+(จ) แต่ละแบบเรื่องสะท้อนให้เห็นสภาพชีวิตของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า โดยเฉพาะประสบการณ์ในฐานะ “ลูกสาว” ที่ได้รับทั้งความคาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง

ในแง่ความสัมพันธ์กับสังคมพบว่าผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าใช้ความเปรียบเพื่ออธิบายอาการเจ็บป่วยของตนใน ๔ ลักษณะ คือ เปรียบภาวะซึมเศร้ากับอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่คนทั่วไปรู้จัก เปรียบภาวะซึมเศร้ากับความมืด เปรียบภาวะซึมเศร้ากับการตกตะกอน และเปรียบภาวะซึมเศร้ากับความพ่ายแพ้ การเปรียบเทียบเช่นนี้สะท้อนให้เห็นทัศนคติว่าภาวะซึมเศร้าเป็นความเจ็บป่วยที่รักษาให้หายได้ แต่ต้องใช้เวลาและกําลังใจอย่างมาก ผู้เล่าเรื่องยังใช้เรื่องเล่าอธิบายพฤติกรรมฆ่าตัวตายและพฤติกรรมทําร้ายร่างกายว่าเป็นการอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากอาการของภาวะซึมเศร้า และเป็นการระบายความเจ็บปวดที่รู้สึกอยู่ข้างใน นอกจากนี้เรื่องเล่ายังสะท้อนทัศนคติด้วยว่าในด้านหนึ่งการรักษาทําให้ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ารู้จักตนเอง รู้จักอารมณ์ และสามารถดําเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น แต่ก็พบด้วยเช่นกันว่าการรักษาอาจทําให้สูญเสียบุคลิกบางอย่างไป เพราะผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าบางคนจมอยู่กับอารมณ์เศร้ามานานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การเล่าเรื่องจึงเป็นการตอบคําถามและสร้างความเข้าใจให้แก่สังคมไทย สะท้อนภาพสังคมไทยผ่านทัศนคติของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าว่า สังคมไทยไม่เข้าใจภาวะซึมเศร้าและไม่เข้าใจประสบการณ์การมีภาวะซึมเศร้า

การศึกษานี้ทําให้เห็นว่า คติชนประยุกต์เป็นแนวทางการศึกษาที่สามารถช่วยสร้างความเข้าใจภาวะซึมเศร้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของประสบการณ์ชีวิตของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า ทัศนคติและมุมมองที่เกิดจากภาวะซึมเศร้า และยังสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมไทยร่วมสมัยผ่านสายตาของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าด้วย การศึกษาชิ้นนี้จึงไม่เพียงเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องภาวะซึมเศร้าเท่านั้น ยังเสนอให้เห็นปัญหา ข้อเท็จจริง และวิธีการปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าในสังคมไทยร่วมสมัยอีกด้วย

ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(นิสิตโครงการส่งเสริมพัฒนาสมรรถนะนิสิตทางด้านศิลปะระดับชาติ นานาชาติ (สาขาวิชาภาษาไทย) รุ่นที่ ๒๒)

อ่านปริญญานิพนธ์ฉบับออนไลน์ได้ที่
https://www.arts.chula.ac.th/folklore/wp-content/uploads/2020/06/ปริญญานิพนธ์-เรื่องเล่าของผู้หญิงที่มีภาวะซึมเศร้า.pdf