พลวัตของคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจังหวัดนครศรีธรรมราช ในสังคมไทยร่วมสมัย

พลวัตของคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจังหวัดนครศรีธรรมราช ในสังคมไทยร่วมสมัย

อ.ดร.พลกฤษณ์ วสีวิวัฒน์

วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต
ภาควิชาภาษาไทย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปีการศึกษา ๒๕๖๒

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
๑. เพื่อรวบรวมคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในสังคมไทยร่วมสมัย
๒. เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยและบริบททางสังคมที่มีผลต่อพลวัตของคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ในสังคมไทยร่วมสมัย
๓. เพื่อวิเคราะห์พลวัตของคติชนและวิธีคิดในการนำคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์มาใช้ในสังคมไทยร่วมสมัย

สมมติฐานของการวิจัย
กระแสการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อิทธิพลการท่องเที่ยว และปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลต่อการนำคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ในสังคมประเพณี เช่น ตำนานและเรื่องเล่า ความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม มาใช้ในสังคมไทยร่วมสมัยในหลายลักษณะ ทั้งการสืบทอด การประยุกต์ การตีความและสร้างความหมายใหม่ ปัจจัยและบริบททางสังคมดังกล่าวทำให้เกิดพลวัตของคติชนในหลากหลายมิติ

บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในสังคมไทยร่วมสมัย ศึกษาปัจจัยและบริบททางสังคมที่มีผลต่อพลวัตของ คติชน รวมทั้งวิเคราะห์พลวัตของคติชนและวิธีคิดในการนำคติชนมาใช้ในสังคมไทยร่วมสมัยผู้วิจัยเก็บข้อมูลภาคสนามในช่วง พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง และตรัง

ผลการศึกษาพบว่า บริบทสังคมนครศรีธรรมราช บริบทสังคมไทย และบริบทสังคมโลกเป็น “ปัจจัยเร่ง” ที่กระตุ้นให้มีการนำคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์มาใช้ในบริบทใหม่ ๆ ขณะที่ลักษณะเด่นของคติชนในเรื่องความชัดเจนและความคลุมเครือของตำนานพระบรมธาตุเจดีย์ รวมทั้งการผสมผสานคติการบูชาพระธาตุกับความเชื่อในท้องถิ่น เป็น “ปัจจัยเอื้อ” ต่อการเลือกนำส่วนใดส่วนหนึ่งของคติชนมาใช้ประโยชน์ เมื่อปัจจัยทั้งสองสอดรับกันจึงเกิดการนำคติชนในสังคมประเพณีมาปรับใช้ในสังคมปัจจุบันหลายลักษณะ ทั้งการสืบทอด การรื้อฟื้น การผลิตซ้ำ การประยุกต์ รวมถึงการตีความและสร้างความหมายใหม่ ทำให้เกิดคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ ในสังคมไทยร่วมสมัยหลายประเภท ได้แก่ คติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ที่สืบทอดจากคติชนเดิม รื้อฟื้นจากคติชนเดิม ประยุกต์จากคติชนเดิม ผลิตซ้ำจากบางส่วนของคติชนเดิม และคติชนที่สร้างขึ้นใหม่

การนำคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์มาใช้ในบริบทใหม่ ๆ ดังกล่าว ส่งผลให้คติชนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัตในหลายมิติคือ คติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์มีการนำเสนอผ่านกระบวนการวิชาการ มีการกลายเป็นสินค้าวัฒนธรรม เป็นเครื่องมือในการจัดการความสัมพันธ์เชิงอำนาจและช่วยขยายความศรัทธาต่อพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งทำให้เกิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหม่ ตลอดจนเกิดศิลปะรูปแบบใหม่ ๆ นอกจากนี้พลวัตของคติชนเกี่ยวกับพระบรมธาตุเจดีย์ยังสะท้อนให้เห็นวิธีคิดของกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการนำคติชนมาใช้ในสังคมปัจจุบัน คือ การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ของผู้ที่มีความศรัทธาต่อพระบรมธาตุเจดีย์ การเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในภาคใต้ การดัดแปลงให้เป็นของท้องถิ่นและการอนุรักษ์เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย

การศึกษาครั้งนี้จึงทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับ “คติชนสร้างสรรค์” พระธาตุศึกษา และมรดกโลกศึกษาซึ่งจะเป็นแนวทางในการศึกษาการนำคติชนในสังคมประเพณีมาใช้ในบริบทใหม่ ๆ ในแง่ของการเป็น “คติชนสร้างสรรค์” การเปลี่ยนแปลงของคติการบูชาพระธาตุในสังคมไทยร่วมสมัยและกระบวนการนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในเชิงคติชนวิทยา

รางวัลที่ได้รับ
รางวัลผลงานวิจัยดีเด่น สาขามนุษยศาสตร์ ประจำปี ๒๕๖๓ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อ่านวิทยานิพนธ์ฉบับออนไลน์ได้ที่
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/69506

ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช