Black cats bring bad luck? ตีแผ่ความเชื่อผิด ๆ ที่กำลังทำร้ายเจ้าเหมียว

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

Trick or Treat! เพิ่งจะผ่านกันไปหมาด ๆ กับเทศกาลวันฮาโลวีน (Halloween) ที่ถึงแม้จะเป็นเทศกาลที่มีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันตก แต่ก็เป็นที่แพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เชื่อกันว่าใน ‘วันฮาโลวีน’ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า ‘วันปล่อยผี’ นั้น เหล่าวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วจะกลับมายังโลกเพื่อเข้าสิงร่างคนที่ยังมีชีวิตอยู่ มนุษย์จึงต้องคอยป้องกันไม่ให้ถูกวิญญาณเข้าสิงโดยการปิดไฟทุกดวง และแต่งกายเป็นผีเพื่อหลอกผีว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ ต่อมาจึงกลายเป็นเทศกาลที่ทุกคนจะออกมาคอสเพลย์ชุดผี และเคาะประตูเพื่อนบ้านเพื่อถามว่า Trick or Treat และแลกเปลี่ยนขนมกันอย่างสนุกสนาน

.

ในเดือนตุลาคม นอกจากจะมีเทศกาลสนุก ๆ อย่างเทศกาลวันฮาโลวีนในวันที่ 31 แล้ว หากเราย้อนกลับไปอีกสักนิด จะพบว่าวันที่ 27 ตุลาคมนั้น ก็ยังเป็น ‘วันแมวดำโลก’ อีกด้วย วันแมวดำโลกนี้ได้ริเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 2011 โดย Cats Protection เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและถ่ายทอดความสวยงามของแมวดำ หากจะถามว่า ‘แล้วทำไมต้องมีการตั้งวันนี้ขึ้นมาล่ะ?’ คงจะตอบได้ว่า เป็นเพราะความเชื่อตั้งแต่อดีตของมนุษย์ที่มองแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย จนทำให้อัตราการรับเลี้ยงแมวดำนั้นยากและมีน้อยกว่าแมวสีอื่น ๆ มาก

.

ในประเทศไทยก็มีความเชื่อที่ว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้ายที่จะนำโชคร้ายหรือสิ่งไม่ดีมาให้เช่นกัน คนส่วนมากจึงยังเชื่อว่าแมวดำเป็นสิ่งไม่ดี และต้องอยู่ห่าง ๆ จากพวกมันเอาไว้ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงความเชื่อที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร แต่ความเชื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้แหละที่กำลังส่งผลร้ายกับเหล่าแมวดำอย่างมาก

.

‘อย่าเลี้ยงแมวดำเลย มันจะนำโชคร้ายมาให้’

‘แมวดำวิ่งตัดหน้า เขาว่าจะโชคร้ายนะ’

‘อย่าไปยุ่งกับแมวดำเลย มันเป็นแมวผี’

 .

ผู้เขียนเชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่คงจะเคยได้ยินคำพูดทำนองนี้มาแล้วอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต ถึงจะไม่รู้ความเป็นมาแน่ชัด ไม่รู้ว่าสิ่งที่เชื่อเป็นความจริงหรือไม่ แต่เมื่อเห็นแมวดำทีไร เราก็จะนึกถึงคำพูดเหล่านี้และหลีกเลี่ยงพวกมันอยู่ดี เรามักจะชินกับการมองแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย เป็นสัตว์อัปมงคลที่หากเดินตัดหน้าใคร คนนั้นจะพบเจอกับสิ่งไม่ดี หรือหากกระโดดข้ามโลงศพโลงไหน ศพนั้นจะกลายเป็นผีอาฆาตพยาบาท ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย 

.

แมวดำนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับแมวสีอื่น ๆ ที่มนุษย์นิยมเลี้ยงกัน ทั้งการมีต้นตระกูลมาจากเสือไซบีเรียเหมือนกัน ลักษณะ รวมไปถึงสรีระทางร่างกายที่คล้ายกัน จะแตกต่างก็เพียงสายพันธุ์และ ‘สีขน’ และด้วยเหตุผลเพียงแค่พวกแมวเหล่านี้มีขนสีดำมาตั้งแต่เกิดนี้เอง พวกมันจึงมักถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่จะนำความโชคร้ายมาสู่ผู้เลี้ยง ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะรับเลี้ยง พวกมันถูกขับไสไล่ส่ง ถูกทิ้ง รวมไปถึงถูกทำร้าย และการที่พวกมันโดนเพิกเฉยและปฏิบัติใส่อย่างโหดร้ายแบบนี้ ทำให้แมวดำส่วนมากไม่กล้าเข้าหามนุษย์ หนำซ้ำเราอาจจะได้เห็นแผลเหวอะหวะตามร่างกายของแมวดำที่บ่อยครั้งอาจมีสาเหตุมาจากมนุษย์อีกด้วย

.

ความเชื่อผิด ๆ ของมนุษย์ที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุนั้นกำลังส่งผลร้ายต่อเหล่าแมวดำที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยอยู่อย่างมากเกินกว่าที่หลายคนคิดเสียอีก แมวดำหลายตัวถูกมนุษย์ทอดทิ้งจนต้องเร่ร่อนกลายเป็นแมวจรจัด ทั้ง ๆ ที่บางคนยังไม่ได้เริ่มเลี้ยงพวกมันเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ได้ยินมาว่าเป็นตัวนำความโชคร้ายก็พร้อมจะนำเจ้าแมวดำเหล่านั้นไปทิ้งโดยไม่ได้คำนึงเลยว่าพวกมันก็มีชีวิต มีจิตใจ มีอารมณ์เศร้า เหงา และเสียใจเหมือนกับมนุษย์ การให้หรือไม่ให้คุณค่ากับแมวสักตัว โดยตัดสินจากเพียงแค่สีขนและความเชื่อที่ถูกเล่าต่อ ๆ กันมา แต่ยังไม่เคยได้ลองคลุกคลีหรือเลี้ยงพวกมันด้วยตนเองนั้น ผู้เขียนมีความเห็นว่าเป็นความคิดที่ตื้นเขินและไม่ต่างอะไรกับการตัดสินบุคคลอื่นจากภายนอก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้รู้จักกันเลย

.

มนุษย์ไม่ควรตัดสินบุคคลอื่นจากภายนอกฉันใด การตัดสินว่าสัตว์ชนิดหนึ่งเป็นความโชคร้ายก็ไม่ควรทำฉันนั้น และถึงแม้ในปัจจุบัน คนที่เปิดใจกับแมวดำจะมีมากขึ้น รวมถึงมีการส่งเสริมทัศนคติด้านบวกต่อแมวดำ แต่เมื่อเทียบกับแมวสีอื่น ๆ แมวดำก็ยังคงเป็นแมวที่มนุษย์รับเลี้ยงน้อยที่สุด รวมถึงความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้ายนั้นก็ยังไม่ได้หายไป ยังคงมีแมวดำที่ถูกมนุษย์ทำร้ายและขับไสไล่ส่งอย่างไม่เป็นธรรมอยู่เรื่อย ๆ  ผู้เขียนจึงอยากจะเชิญชวนทุก ๆ คนที่ยังคงมองแมวดำทางด้านลบ ให้มาเริ่มเปิดใจและลองมองน้อง ๆ ในแง่ดีมากขึ้น แมวดำนั้นก็น่ารักและน่าเอ็นดูไม่ต่างจากแมวทั่วไป พวกมันก็ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากมนุษย์เหมือนกับแมวสีอื่น ๆ ไม่ได้ต้องการสีหน้ารังเกียจหรือหวาดกลัวอย่างที่ได้รับอยู่ในทุกวันนี้ หากเราเปิดใจมากขึ้น เราก็จะได้เห็นมุมน่ารัก ๆ ของแมวดำไม่ต่างจากแมวสีอื่น ๆ ขอเพียงใช้เวลาในการทำความรู้จักและความคุ้นเคยกับพวกมันสักนิด ลองมองออกนอกกรอบความเชื่อสักหน่อย แล้ววันหนึ่งเราอาจจะกลับมาคิดว่า ‘ทั้ง ๆ ที่น่ารักขนาดนี้ ทำไมตอนนั้นเราถึงคิดว่าน้อง ๆ เหล่านี้เป็นตัวนำความโชคร้ายกันนะ’ หรือ ‘รู้อย่างนี้รับเลี้ยงแมวดำตั้งนานแล้ว’ ก็เป็นได้

.

เนื้อหา : ธนพร รัตนมณี

พิสูจน์อักษร : ลลดาภัทร เบญญาพุฒิภัส และ นิติธร ตรีสุรมงคลโชติ

ภาพ : อสมาภรณ์ โลหแสงเรือง

.

อ้างอิง: https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1566725

https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/2229041